วันพุธที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

IBYS 2_15 ที่รัก

I'm by your side~ ใกล้ ๆ คุณ 2


Chapter 15 : "ที่รัก"


http://my.dek-d.com/dek-d/story/viewlongc.php?id=887510&chapter=50



               พื้นผิวโซฟานุ่มเกิดเสียงประหลาดจากการเสียดสี แผ่นหลังบางเลื้อยไถลไปมาเพราะความเสียวซ่าน เสื้อ กางเกง หรือชิ้นส่วนใดก็แล้วแต่  หล่นกองอยู่ระเกะระกะตามพื้นพรม สองกายกำลังลุ่มหลงอยู่ในภวังค์ กอดรัดบนโซฟาแคบๆ มีเพียงผิวร้อนรุ่มห่อหุ้มกายเท่านั้น

                “อืออออ”

                เสียงครางอย่างพึงใจลอดผ่านช่องว่างเล็ก ๆ ระหว่างริมฝีปากที่พันตูดูดกลืนกันไม่รู้เบื่อ  ยิ่งจูบยิ่งหวานคงเป็นคำนิยามกับสิ่งที่ทั้งสองคนกำลังมัวเมาอยู่ได้  ลิ้นเล็กตวัดรับลิ้นร้อนที่เกาะเกี่ยว แขนขาวโอบคล้องไหล่ ปลายนิ้วเล็กแทรกตามเรือนผมดำ ขยุ้มดึงบ้างยามอารมณ์ปะทุโหมหนักในช่องอก

                เสียงทุ้มต่ำครางลึกหอบหนักด้วยความร้อนที่วิ่งพล่านไปทั่วกาย  ผิวเนียนนุ่มตรงหน้าชวนให้หลงใหล ปัดป่ายบีบเค้นไม่รู้เบื่อ  เนื้อผิวหอมครีมอาบน้ำอ่อนๆ ตั้งแต่ปลีน่อง ต้นขา สีข้าง ซอกคอ แผ่นท้อง .. แทบจะทุกที่ของคนด้านล่างถูกริมฝีปากอิ่มชิมมาแล้วจนทั่ว

                “ฮื้อออ  ฮะ ฮะ .... อึก”

                ยิ่งปล่อยริมฝีปาก  เสียงแหบๆ ก็ยิ่งครางหวานจนคิมคิบอมอดกลั้นอารมณ์แทบไม่อยู่  แต่ใครๆ ก็รู้  ....ของอร่อย....ควรค่อย ๆ ละเลียดกิน จึงจะได้สัมผัสรสชาติที่ติดใจอย่างเต็มอิ่ม

                ดวงตาเรียวสีน้ำตาลอัดแน่นด้วยความต้องการจนฉ่ำวาว  น้ำใสฉาบคลอเพราะความอึดอัดและสั่นไหว  ตัวบางสะท้านยามที่เขาล้วงมือลึกเข้าในซอกอุ่นและสัมผัสกาย  แผ่นอกกระเด้งแอ่นหน้าหวานเงยหงายอย่างเสียวซ่านเมื่อเขาเริ่มขยับมือ

                จมูกโด่งคมกดลงเหนือหลุมเล็กบนแผ่นท้องนวลเรียบตึง กดริมฝีปากจูบแล้วเม้มดึงพอให้ผิวเนื้อติดขึ้นมาเล็กน้อย  ลากริมฝีปากขึ้นสูงมาตามความโค้งของแผ่นอกที่แอ่นขึ้นเพราะเขาสอดมือเข้าไปดันจากด้านล่างและเจ้าตัวก็สะท้านรับริมฝีปากของเขา ลากช้า ๆ ราวกับไม่ต้องการละเลยไปแม้แต่ตารางนิ้วก่อนจะวกไปหาอกราบที่หวานล้ำนักในความรู้สึก

                “อึก  อือออ คิบอม..”

                ชอนไชปลายนิ้วตามเส้นผมที่ท้ายทอย อีกข้างจิกลงสะบักหลัง แม้ไม่แสบเพราะตัดเล็บสั้นแล้วแต่ยังรู้สึกเจ็บ ขาเล็กที่ถูกเขาหย่อนตัวลงมาแทรกตรงกลางคอยจะหนีบเข้าหากันตลอดเวลา

                “ทงเฮ”

                กายสูงโปร่งยกตัวขึ้นสูงจนหน้าคมลอยอยู่ใกล้หน้าเรียวหวาน  ริมฝีปากบางสีก่ำหอบเผยออ้า  เปลือกตาบางปรือเปิดนัยน์ตาหันมาสบแทนการตอบรับคำเรียกขาน  คิบอมโน้มหน้าลงสูดดมแก้มหอมนิ่มจนเต็มปอดแล้วเลื่อนไปเล็มไล้ใบหูเล็กพร้อม ๆ กับมือเริ่มขยับรูดรั้ง

                “ฮื้อออออ” 

                ป้อนความหวามไหวด้วยมืออุ่นจนขาเรียวหนีบลำตัวเขาแน่น  กายแข็งแรงขยับเปลี่ยนท่าให้นั่งถนัด  ปากร้อนยังเล็มใบหูเล็กนิ่มด้วยความรัก  กระซิบด้วยเสียงทุ้มแตกพร่าจนแทบฟังไม่เข้าใจ

                “ไหวมั้ย”

                “มะ .. ไม่  จะไม่ไหวแล้ว คิบอม อืออออ ...”

                ฟันเล็กขบฝีปากล่างแน่นจนเป็นรอย  ดึงมือออกจากใต้แผ่นหลังที่เขาใช้ดันให้โค้งเพื่อเชยชมแผ่นอกหวาน ใช้ปลายนิ้วหัวแม่มือกดตามริมฝีปากบางแล้วลูบไปมา

                “อย่ากัดปากแบบนั้น...ทงเฮ”

                “อ๊ะ  อึก แล้วจะให้ทำยังไงล่ะ”

                “ไม่ต้องกลั้น... นะ”

                “มะ ....  ไม่ ไม่เอาหรอก ... “

                แนบฝ่ามือเข้ากับใบหน้าเรียว ก่อนจะแนบริมฝีปากลงกับปากเล็กที่ขอบล่างแดงก่ำ ใช้ปลายลิ้นแตะลากตามรอยช้ำก่อนจะหย่อนลิ้นเข้าควานหาความหวานล้ำ ดื่มด่ำจนพอใจ

                นิ้วเล็กที่แผ่นหลังและไหล่กดปลายนิ้วลากไปจนทั่ว  คิบอมถอนจูบแล้วซุกหน้ากับไหล่ขาว  ขบเม้นผิวเนื้อตึงตามวัยของคนด้านล่าง  สอดมืออีกข้างเข้าตรงต้นขาขาวแล้วดันให้แยกออกจากที่หนีบแน่นข้างสะโพก เพื่อที่เขาจะได้ขยับเร่งจังหวะได้สะดวก

                “อื้อ .. ฮึก”

                นิ้วยาวกอบกุมรูดและเร่งทั้งที่ตัวทาบกดน้ำหนักลงเต็มที่ สะโพกเล็กขยับไหวตามจังหวะที่ถูกชักจูง  ตัวบางหอบสะท้าน เร่งกอบโกยลมหายใจถี่เข้าปอด  ก่อนที่เสียงแหบพร่าจะครวญผ่านปากบางราวทรมานนักหนา กระตุกและปลดปล่อยทุกความรู้สึกออกมาก่อนทิ้งตัวจมลงกับโซฟานุ่ม

                “อ๊ะ อื้อ อื้ออออออ”







x
               
                ภาพเหงื่อพราว แก้มแดง ปากวาว ตาฉ่ำ ทำให้ความอดทนที่มีถึงขีดสุด  ความร้อนในกายปะทุจนข่มใจเย็นดังเดิมไม่ไหว  อุปกรณ์ ตัวช่วยทั้งหลายที่อยู่บนห้องนอนถูกละเลยไป  มีเพียงสิ่งสะท้อนอารมณ์ขีดสุดของคนด้านใต้ที่จะใช้เป็นเครื่องมือ


               “เจ็บหน่อยนะทงเฮ”

                บอกให้รู้ตัวล่วงหน้าก่อนจะเริ่มขยับท่วงท่าให้ถนัด  โซฟาไม่เล็กแต่แคบเกินกว่าผู้ชายวัยเจริญพันธุ์จะใช้ทำกิจกรรมสองคนเช่นนี้  รู้ว่าจะต้องเจ็บ แต่ความปวดหนึบทำให้ไม่สามารถถ่วงเวลาต่อได้แม้สักนาที  กายสูงโปร่งเหงื่อพราวมัดกล้ามเนื้อค่อยๆ ฝังทุกความรัก ความปรารถนาที่มีให้อีกคนได้รับรู้

                น้ำอุ่นปลายหางตาฟ้องถึงความใจร้อนเกินไปของเขา  แต่ตาเรียวสวยวาวด้วยความสุขสม  อ้อมแขนต่างกอดรัด  ฝ่ามือต่างลูบไล้  ปลายจมูกต่างสูดดม  กลิ่นความปรารถนาที่ฉาบไปทั่วเนื้อผิวเส้นผมของคนที่กำลังส่งต่อความรักให้แก่กัน

                แสงรอบห้องสาดส่องผ่านผ้าม่านสว่างจ้า  แก้มใสขึ้นสีชมพูจนเกือบแดงก่ำ  คนขี้อายขลาดเขินเหลือเกิน หลบตาเป็นพัลวัน  คิบอมเพียรกระซิบด้วยเสียงทุ้มต่ำให้ผ่อนคลาย

เคยคิดว่าเลี่ยนนะถ้าจะเรียกใครสักคนว่า “ที่รัก”  แต่แปลก  วันนี้ใครบางคนน่ารัก จนคิดว่าเรียกได้ง่าย ๆ  กลุ่มผมนุ่มพริ้วคลอเคลียหน้าผากสวย แก้มใส สะบัดตามจังหวะขยับโยกเคลื่อนกาย 

เร่งจังหวะ ย้ำลึกสุดแรงในครั้งสุดท้าย คิมคิบอมก้มโน้มแนบริมฝีปากชิดในตำแหน่งที่มีสิ่งสำคัญของคนตัวบางเต้นตุบตับอยู่ภายใน  เอ่ยทั้งที่แนบริมฝีปาก ดูดดึงผิวเนื้อด้านใต้  ... เอ่ยอย่างแผ่วเบา


“....ที่รัก”

IBYS 2_4 มองฉันสิ..ทงเฮ

I'm by your side~ ใกล้ ๆคุณ 2
Chapter 4 : มองฉันสิ...ทงเฮ

ส่วนต้นค่ะ

ม่านถูกรูดออกจนสุดเปิดให้เห็นโลกภายนอกผ่านหน้าต่างกระจกบานใหญ่  วิวจากห้องต่างระดับของบ้านหลังกะทัดรัดไม่กว้างไกลแต่พอเห็นสนามเล็กด้านหลังและไฟตามท้องถนนและบ้านเรือน

“ทำอะไรอยู่หืม?

สัมผัสสอดเข้าใต้แขนแล้วโอบรัดรอบเอว ลำตัวเย็นๆ อย่างคนเพิ่งอาบน้ำแนบเข้ามาที่ด้านหลัง  ความชื้นส่งผ่านเสื้อนอนตัวบางแต่ก็ทำให้รู้สึกดี  เพียงไม่นานไอความเย็นค่อยผสานกับอุณหภูมิจนเป็นไออุ่นที่รู้สึกได้

 “ดูไปเรื่อยเปื่อย” 

อีทงเฮเอนตัวพิงทั้งที่ตายังมองไปนอกหน้าต่างที่ไม่ค่อยเปิดม่านนัก เพราะการอยู่คนเดียวทำให้รู้สึกระมัดระวังเกินกว่าจะปล่อยช่องว่างให้คนภายนอกมองทะลุได้

                “เมาหรือเปล่า”

                เสียงทุ้มพูดชิดใบหู  ปากบางยิ้มเบา คิบอมคงจะห่วงสองแก้วสุดท้ายที่เขาใช้วิธียกรวดกับอีฮยอกแจเพื่อให้เพื่อนยอมปล่อยเยซองออกจากการกอดรัดแล้วแยกย้ายกลับบ้านเสียที

                “ไม่หรอก คิบอมล่ะ”

                “ไม่เมา แต่สงสัย”

                “หือ? สงสัยอะไร”

                “สงสัยบางอย่าง ... แต่คิดว่าทงเฮคงไม่ตอบ”

                เบี่ยงหน้าไปมองจมูกโด่งคมและปากอิ่มได้รูป อีทงเฮขำคิกในลำคอเพราะคิมคิบอมทำเสียงคล้ายน้อยใจตัดพ้อราวกับเด็กๆ

                “รู้ดีจังนะ” 

                “เฮ้อ... ก็ทงเฮไม่ค่อยตอบอะไรสักเท่าไหร่”

                “บางเรื่องไม่ต้องตอบก็ได้นี่นา ดูเองก็เห็น”

                “เห็นแล้ว... ว่าทงเฮแปลกๆ”

                “ที่ไหน.. ไม่มีหรอก”  เสียงใสเอ่ยแผ่วกว่าเดิม รู้สึกถึงอ้อมแขนที่กระชับเอวมากขึ้น

                “ตั้งแต่ที่ร้าน ฉันอยู่ข้างนายตลอด รู้....ว่านายแปลกไป อย่าปฏิเสธเลย”

                “..อะ .. อืมมม”

                หมดปัญญาจะปฏิเสธในเมื่อรู้ดีว่าเจ้าของกอดอุ่นช่างสังเกตกว่าเขามากแค่ไหน

                “คิดอะไรอยู่  บอกฉันได้มั้ย” เสียงทุ้มเอ่ยชิดใบหูจนปากอุ่นละเลียดโดน ก่อนจะกดจูบเบา ๆ ให้ใจหวิวเล่น ๆ

                “มะ .. ไม่มีอะไรหรอก ช่างมันเถอะนะ  เดี๋ยวฉันก็หาย”

                “แน่เหรอ?

                “แน่สิ” 

                หันไปสบตาคู่คมที่รออยู่ แต่ดูเหมือนอีกคนจะยังเต็มไปด้วยความไม่แน่ใจ ทงเฮจึงค่อย ๆ หมุนกายกลับมา วางหน้าผากพิงไหล่ซุกหน้าลงไปพร้อมโอบเอวสอบไว้หลวม ๆ

                “ไม่ได้เป็นอะไรมาก เดี๋ยวก็หาย... จริงๆ”

                “งั้น.. ฉันขอบอกอะไรหน่อย”

                “หืมม? อะไรเหรอ”

                “ฉันอยู่ตรงนี้นะ”

                “...อะไรอ่ะ  ก็รู้... คิบอมก็อยู่ตรงนี้ไง” แขนเล็กที่กอดเอวสอบไว้เขย่าเบา ๆ

                “งั้นแล้วทำไมนายถึงใจลอยไปที่อื่นตลอดเวลาเลยล่ะ”

                “................?

                “นายอาจจะไม่รู้ตัว  แต่ฉัน...รู้สึก”

                “................”

                “ทั้งที่อยู่ข้าง ๆ นายอย่างนี้”

                “................”

                “แต่เหมือนใจนายลอยไปที่อื่น เหมือนตาของนายจะมองผ่านฉัน”

                “มะ..ไม่นะ ไม่จริงหรอก”

                สัมผัสอุ่นจุมพิตลงที่แก้ม  ริมฝีปากชื้นเล็มไล้แนวกรามจนถึงคาง กดเพียงแผ่วบางที่ริมฝีปากบนแล้วผละออกจนทงเฮมองตามตาปรอย
               
                “ฉันอยู่ข้าง ๆ นาย ฉันไม่ได้มองตามใคร ไม่ได้คิดถึงใคร  คิดถึงแค่นาย.... เพราะฉะนั้นอย่ามองคนอื่น อย่าคิดถึงคนอื่นมากกว่าฉัน.. อย่าสนใจคนอื่นมากกว่าตัวเอง .....มองฉัน  ฟังฉัน....ทงเฮ””
               
                แม้จะเอ่ยประโยคเอาแต่ใจ แต่น้ำเสียงแฝงมาด้วยความน้อยใจ  สะกดให้คล้อยตามง่าย ๆ ไร้เรี่ยวแรงขัดขืน เสียงทุ้มนั่นทำให้อีทงเฮรู้สึกว่ากำลังถูกตัดพ้อ 

                กลิ่นแอลกอฮอล์จางส่งผ่านไออุ่นของลมหายใจ คละเคล้าส่งต่อกันในโพรงปาก  ลิ้นชื้นซุกซนเกี่ยวกระหวัดจนสั่นสะท้าน  แก้มนิ่ม ผิวคอหอมถูกสูดกลิ่นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความเบียดชิดจากคนเดิมทำให้ใจเต้นตุบตับแทบหลุดออกนอกอก ก่อนที่คิมคิบอมจะดันออกแล้วเริ่มบางอย่างที่อีทงเฮ...ไม่เคยรู้จัก
               
                ครางแผ่วเพราะความวาบหวิวที่ไม่เคยคุ้น  คิมคิบอมที่ร้อนรุ่มวันนี้กลับเนิบนาบ ลมอุ่นพรมไปทั่วแผ่นอก แผ่นท้องเปลือยเปล่า ปากอิ่มลากเอื่อยเพียงแผ่วผิว  บางเบา.......ให้รู้สึกไม่แน่ใจในสัมผัสจนต้องแอ่นอกเข้าหา

                นิ้วเรียวยาวที่เคยเค้นหนักจนเนื้อตัวเจ็บ  กลับลากเบาจากข้อเท้า ปลีน่อง  ต้นขา และผิวเอวจนต้องบิดกาย  ปลายนิ้วปัดป่ายตามแนวสีข้าง ก่อนหยุดไล้วนที่ยอดอก
               
                ทำได้ยังไงกัน... 

                เหมือนเป็นเพียงสายลมอุ่นลากผ่านทุกส่วนสัด  ราวกับเป็นเพียงภาพลวงในจินตนาการ  มีเพียงเรียวลิ้นที่สะกิด และปากอิ่มที่เชยชมจุกเล็กเท่านั้น ที่ทำให้ทงเฮเชื่อว่ากำลังถูกกกกอดอยู่จริง

                “ฮื้อออ~” 

                ศอกเล็กค้ำก่อนดันยกตัวขึ้นสูง  ครางในลำคอฮึดฮัด  คิ้วเรียวขมวดนิ่วอย่างคนไม่ได้ดั่งใจ  แต่ไม่รู้ว่าอะไรที่ตนต้องการ

                ใบหน้าคมผละจากผิวเนื้อบางขึ้นมาสบตา  คิมคิบอมยามนี้เนิบนาบ ฝ่ามือคืบคลานช้า  ทั้งที่นัยน์ตาเต็มเปี่ยมด้วยแรงปรารถนาฉายชัด

                “อืออ .. คิบอม”

                วูบโหวง ราวกับมีหลุมกว้างใหญ่ไร้ขอบเขตแดนอยู่ในอก ร่างกายสะท้านเพราะลมหายใจที่พรมทั่ว แต่กลับเหมือนไม่ถูกสัมผัส 

                รู้ตัวว่ากำลังถูกตาคู่นั้นจดจ้องที่ริมฝีปาก  เผยอปล่อยลิ้นเล็กสีชมพูแลบเลียปากล่างช้า ๆ หวังว่าใบหน้าคมจะโน้มลงมาเติมสิ่งที่เขากำลังร้องขอ 

                แต่คิมคิบอมเพียงแค่ลากผิวปากสัมผัสกัน กดจูบเกิดเสียง จุ๊บ ที่ริมฝีปากบนเบา ๆ เท่านั้น  ไม่แนบชิด ดุดันจนแทบขาดห้วงลมหายใจอย่างที่เคย

               “ฮื้อออออ..”

            สะบัดช่วงแขนที่เป็นอิสระแรงๆ  ลงบนที่นอนนุ่ม  บิดกายไปมาทั้งไหล่  เอว  ช่วงขา  แต่ยังรู้สึกว่ามันไม่ใช่  ได้ยินเสียงทุ้มครางขำในลำคอให้รู้สึกขัดใจจนยกมือขึ้นทุบหัวไหล่แน่นแรง ๆ

“อือออ ...คิบอมมมม”

“ทำไม”

“ฮื้อออ” 

จิกนิ้วขยำที่ต้นแขนเนื้อเนียนแน่น  นัยน์ตาอบอุ่นส่งแววล้อเลียนกับกิริยาที่เขาแสดงออกซึ่งแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจ  แขนยาวสอดใต้เอวแล้วกอดเกี่ยวไว้  ไม่ทาบทับลงมาเหมือนที่เคยทำ

“คิบอม.. อื้อออ”

หมั่นไส้แววตากับยิ้มมุมปากจนทนไม่ไหว  ความเขินอายถูกพับเก็บไว้เมื่อร่างกายถวิลหาบางสิ่งจนควบคุมไม่อยู่  ยกศีรษะขึ้นสูงแล้วระบายความอึดอัดที่ไม่สามารถเอ่ยเป็นถ้อยคำได้กับกล้ามเนื้อของคนข้างบนทันที


“โอ๊ะ.. โอ๊ยย .. พอแล้ว...ทงเฮ.. ทงเฮ”

ปล่อยเขี้ยวออกจากผิวเนื้อร้อนที่เต้นตุบสะท้อนผิวฟัน  ตวัดตาขุ่นมองคนช่างกวนใจ  จ้อง...จนปากอิ่มนุ่มเคลื่อนมาใกล้ ...กระซิบแผ่วชิดริมฝีปากของเขา

“รู้หรือยัง...”

“รู้อะไร”

“รู้หรือยัง ว่าฉันอยู่ตรงนี้”

“อะไร.. นายหมายถึงอะไร”

นิ้วมือยาวจับมือเขาคล้องไปที่ลำคอของตนเองก่อนจะก้มลงกดจมูกและปากซุกลงที่ซอกคอ ปลายอุ่นชื้นแตะหยอกตำแหน่งตรงที่ทงเฮจำได้ว่ามีไฝเม็ดเล็กอยู่ หวิวรสลิ้นจนเสียงแหบครางฮือ

“กอดฉันแน่นๆ สิ ...จะได้จำได้ ว่าฉันอยู่ข้างนาย  อยู่บนตัวนาย แนบชิดกับนาย....เรา..กำลังแนบชิดกัน”

เสียงทุ้มแหบพร่า ฝ่ามืออุ่นร้อนเริ่มลากผ่าน กดลงน้ำหนักตามผิวเนื้อช้า ๆ  ขอบตาของทงเฮร้อนผ่าว จมูกโด่งแสบด้วยความรู้สึกที่ตีรื้นจากในอก 

...เขาต้องการความอบอุ่นของคนตรงหน้า ต้องการได้รับสัมผัสเพื่อให้ตัวเองมั่นใจ  และเพราะต้องการจนแทบทนไม่ไหว  มือไม้แม้จะสั่นแต่ยังกระชับอ้อมแขนเข้ากับช่วงไหล่หนา

“... ฮือออ .. นะ... คิบอม”




ราวกับโดนมนต์สะกดให้คล้อยตาม ดื่มด่ำอยู่ในห้วงอารมณ์ลึกล้ำจนสะท้านถี่  กล้ามเนื้อทั่วทั้งกายขมวด บิด เกร็ง ด้วยความเสียวซ่าน  เร้าให้อยากหลีกหนีพอๆ กับเบียดผิวเข้าหา 

ถูกกดตรึงกับเนื้อที่นอนนุ่ม  ถูกกดจมลงใต้ผิวน้ำเย็นเยียบแต่ขณะเดียวกันก็กลับรุ่มร้อน  

ท่อนขาแข็งแรงกดขาขาวให้แยก แทรกกายตาม  น้ำหนักที่เคยคุ้นทาบทับ เบียดชิด และเสียดสี

กลิ่นครีมอาบน้ำโชยกรุ่น ผสานกลิ่นเนื้อผิว ระเหยลอยอบอวลจุดอารมณ์พิศวาสให้ลุกโชน 
อะไรบางอย่างในกายบิดมวนเป็นก้อนกระจุก เพิ่มขยายอัดแน่นในอก ลามแผ่ทั่วร่างราวกับกำลังหาช่องทางระบายออกจนต้องหยีตา กัดฟัน 

หน้าเรียว แก้มใสที่เงยหงาย ถูกประคองไว้ในอุ้งมือและกระซิบแผ่วเบาชิดใบหู

“ลืมตามองฉันสิ.. ทงเฮ”

ปรือตามองอารมณ์ปรารถนาในตาคู่นั้น  เห็นภาพตัวเองตัวบิด อารมณ์พุ่งพล่าน เขินอายจนต้องเบี่ยงแก้มออกจากมือลงแนบหมอนหลบสายตา

จูบแนบชิด ตวัดลึก เกี่ยวรัดปลายลิ้นเล็ก ขบดูดปากบางจนแทบชา  ละห่างเพียงน้อยให้ปอดเล็กกอบโกยจนหอบโยน 

“อือออออ ....”


เสียวซ่านทว่ากัดฟันแน่น  มือไม้สั่นจนรู้สึกได้  แม้ไม่ใช่ครั้งแรกแต่ยังไม่อาจละทิ้งความเขินอายในท่วงท่า  แม้จะเคยรู้จักร่างกายของอีกฝ่ายแต่ยังรู้สึกเจ็บ คับ จนกระเด้งตัวขึ้นกอดเกี่ยวบ่าแข็งแรงไว้แน่น

“อ๊ะ.. อื้ออออ คิบอม”

“ใจเย็นๆ ทงเฮ ... อย่าเกร็ง”

“ฮื้ออออ...”

มืออุ่นร้อนลวกผิวเคลื่อนตามแนวแผ่นหลังโค้ง  บั้นเอว นวดคลึงให้ผ่อนคลาย ก่อนกอบกุมบางส่วนของทงเฮไว้ แล้วเริ่มขยับรูดรั้งตามจังหวะเคลื่อนกายแทรกด้วยเสียงทุ้มหอบหายใจถี่  

จุกบนอกถูกดูดดึงขึ้นแล้วปล่อยหลุดจากปากร้อนซ้ำๆ ...คล้ายจะเจ็บหนึบแต่สร้างกระแสซ่านวิ่งปราดทั่วท้องน้อย

นิ้วแข็งแรงกดทั่วอก และสะโพกนิ่ม  เค้น คลึง ... เกือบจะเจ็บ เกือบจะร้อง แต่ลำคอขาวกลับเปล่งเสียงครางหวาน

ยามอารมณ์พุ่งสูงลิ่ว  หลายต่อหลายครั้งต้องการปลดปล่อยบางอย่างให้พ้นจากกาย  แต่คนข้างบนก็กลับเปลี่ยนจังหวะเป็นเชื่องช้าคั่นไว้  ไม่ยอมปล่อยให้ถึงจุดหมาย  แล้วขยับเร็ว รูดรั้ง ปลุกทุกประสาทสัมผัสอีกครั้งจนแทบขาดใจในห้วงสั้นๆ แค่เพียงไม่กี่นาที

อีทงเฮถูกตอกย้ำด้วยจังหวะกระชั้น  ย้ำ.. ให้รู้สึกถึงผิวเนื้ออุ่นที่เสียดสี  ย้ำ....แทรกลึก  หอบถี่ จนเม็ดเหงื่อหยดพราวลงแผ่นผิว

นิ้วเล็กเกร็งบิดต้นแขนแน่นเนื้อและผ้าปูจนนิ้วขาว ปลายเท้าเกร็งจิกปวดหนึบ  เอวบางแอ่นสูง แหงนเงยสุดลำคอ

ก่อนที่เกลียวคลื่นสูงใหญ่ระลอกสุดท้ายจะโหมซัดอัดในอกจนสมองขาวโพลนและหลุดปลิว  ทิ้งไว้เพียงยอดอกสีก่ำ หน้าร้อน  ตัวชา ราวโดนไฟฟ้ากระแสอ่อนช็อตลามเลียไปทั้งกาย

“อ๊ะ.. อ๊า....อื้อออออ......ฮือ. อ.... ”


คนด้านบนโหมย้ำลึกในจังหวะท้าย  ราวกับต้องการให้ลึกถึงจิตใจ ซึ้งถึงการมีตัวตน สัมผัส จับต้องได้  

และ....ตั้งแต่เริ่มจนถึงจุดสิ้นสุดของกิจกรรม  คิมคิบอมเพียรเรียกชื่อของเขา ก่อนครางกระเส่าในห้วงสุดท้าย 

เสียงกระซิบที่ใบหู ทว่าสะท้อนก้องในใจ 


รักนะ ...ทงเฮ........

TBC


IBYS 1_24 เหตุผลที่อยู่ตรงนี้

I'm by your side~ ใกล้ ๆ คุณ 
Chapter  24  :  เหตุผลที่อยู่ตรงนี้


เพราะเป็นนายไง อีทงเฮ  เพราะเป็นนาย

นิ้วยาวจับต้นแขนของคนที่ยังมุดอยู่ซอกไหล่ดึงออกมาเบา ๆ  ตาแดง จมูกแดง น่ารักดีแต่ไม่มีเวลาชื่นชม เพราะคิมคิบอมมีสิ่งที่สำคัญกว่านั้น

“ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่     ตั้งแต่ตอนไหน    อาจจะเป็นตั้งแต่ช่วยงานฉัน  หรือไม่ก็ ..ตั้งแต่นายถีบรถฉันนั่นแหละ”  นิ้วยาวเสยผมยุ่งๆ  ของคนที่มุดไหล่จนเป๋ไปมา ตาเรียวยังแดงแต่ก็จ้องนิ่งเพราะตั้งใจฟัง

“มารู้ตัวอีกทีก็อยากอยู่ใกล้ ๆ อยากทำโน่นทำนี่ให้  อยากพาไปไหน  ต่อไหน  อยากให้อยู่ในสายตาตลอดเวลา”   รู้สึกได้ถึงมือเล็กที่กำเสื้อเขาไว้           แถว ๆ เอว

“สบายใจเวลาฟังเสียง  ใจเต้นเวลาได้ใกล้ชิด  คิดถึงเวลาไม่เจอหน้า. กับจองอึนนาฉันไม่เคยรู้สึกแบบนี้    ฉันถึงได้บอกว่าเพราะเป็นนาย... ทงเฮ”

ปากเม้มเข้าหากันหลุบตาต่ำเขาจึงค่อย ๆ รวบคนตัวเล็กเข้ามากอดไว้อีกครั้ง

“นี่คือเหตุผลที่ฉันนั่งอยู่ตรงนี้  และเหตุผลเดียวที่ฉันจะลุกไปจากที่นี่ คือนายบอกกับฉัน ว่าไม่ต้องการฉัน"


“ไม่.. ไม่พูดหรอก” เสียงแหบหวานดังพึมพำมาจากอกที่เจ้าตัวซุกอยู่

“นายรู้มั้ย ฉันกลัวว่านายจะเห็นใจคนอื่นมากกว่าฉัน นายจะไล่ฉันไป”

“ไม่.. ฉันไม่ได้เป็นคนดีขนาดนั้นหรอกนะคิบอม  ถึงฉันจะเศร้า          จะเสียใจ แต่ฉัน.. เห็นแก่ตัวกว่าที่นายคิดไว้... ฉันไม่อยากอยู่กับความเหงาแบบเดิมอีกแล้ว”

“ถ้าแค่เพราะเหงา  ไม่ต้องเป็นฉันก็ได้นี่นา ทงเฮ”

“ไม่เหมือนกัน  กับฮยอกหรือแม้กระทั่งเซฮุน   ฉันไม่ได้รู้สึกเหมือนที่กำลังเป็นอยู่ตอนนี้.. นาย.. อย่ากลับไปหาเธอนะ”  ตอนท้ายประโยคเสียงสั่นจน          คิบอมต้องกอดกระชับแขนเข้าแน่น ๆ แล้วจูบขมับเบา ๆ

“ขอบคุณนะทงเฮ  ขอบคุณ”



คิบอมกดจูบไปทั่วด้วยความสุขที่กำลังเอ่อล้นออกมาจากข้างใน  เหมือนความอบอุ่นหอมหวานแผ่ซ่านออกจากตรงไหนไม่รู้ได้แต่คิมคิบอมกำลังระบายผ่านริมฝีปากให้อีกคนได้รับรู้เช่นกัน


แก้มหอมนิ่ม ๆ  มีรอยชื้น  เปลือกตาบางแดงช้ำ  จมูกโด่งสวยปลายแดงก่ำ และริมฝีปากบางที่กัดเม้ม  คิบอมจูบในทุกส่วนที่ลากริมฝีปากผ่าน  แขน       ทั้งสองข้างโอบรอบตัวบางแนบไว้กับอก  ทั้งจูบทั้งสูดดมกลิ่นหอมตรงหน้า  และ   ยิ่งบดริมฝีปากหนักเมื่อทงเฮไม่ปฏิเสธ


จูบไล้ริมฝีปากบางที่เผยอออกช้าๆ   และสั่นเล็กน้อยในยามที่เขาสอดแทรกเข้าไปซึมซับความหวาน  ปลายลิ้นเล็กนุ่มอุ่นจนไม่อยากละห่าง หน้าเรียวแหงนเงยและเอียงไปตามทิศทางอย่างเป็นธรรมชาติทำให้ลึกล้ำจนยากจะถอดถอน  กดจูบเบาๆ อีกสองสามครั้งเพื่อปลอบคนหอบหายใจจนตัวโยนหน้าแดงก่ำ  แว่วเสียงพึมพำเบา ๆ ก่อนจะซุกหน้าลงที่ไหล่เขาอีกครั้ง


“.... บุหรี่”


“อ.. อ๋อ .. ใช่ ฉันสูบเมื่อกี้”


“ทำไมฉันไม่เคยเห็นว่านายสูบบุหรี่”


“ปกติไม่สูบ ยกเว้นเวลาเครียดจริงๆ... เหม็นหรือเปล่า.. ฉันบ้วนปากแล้วนะ”


“ไม่เหม็น.. แต่”

“หือ?


“มันหวิวๆ ... มันเหมือนขมๆในคอ แต่...มันก็ดูเท่ห์ๆ ดี”  หน้าเล็กกดหนักพร้อมมือขยุ้มที่เสื้อบ่งบอกถึงความเขินอายของเจ้าตัว คิบอมหัวเราะในลำคอด้วยความรักใคร่ เลื่อนมือจากแผ่นหลังบอบบางมาประคองใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยของความเขินอายแล้วจูบให้รางวัล


แผ่นหลังบางสัมผัสกับที่นอนนุ่ม   สองแขนเกี่ยวกวัดกอดรั้งอีกคนให้จุมพิตลึกล้ำในขณะที่มือใหญ่สอดลึกเคล้นคลึงไปทั่วผิวนุ่ม

ลมหายใจร้อนผ่าวเป่ารดจากจมูกโด่งและปากอิ่มที่สูดดมกดจูบไปทั่วใบหน้า ลำคอ ซุกไซ้ดูดดึงราวกับเกรงกลัวว่าผิวบางตรงหน้าจะเลือนหาย 


หน้าเรียวแหงนเงยจนสุด  ปากบางกัดแน่น  ระบายความอึดอัดทางลมหายใจหนักๆ และปลายนิ้วขาวที่แทรกกดขยุ้มอยู่ที่ผมดำหนา


นุ่มนวล แต่เร่าร้อน


ขบเม้มจนผิวเนื้อบางที่ฐานคอติดขึ้นมากับริมฝีปากอิ่ม  คิบอมยกตัวขึ้นมาเพื่อมองตาฉ่ำหวานของคนข้างล่างพร้อมกับมือใหญ่ที่ดึงกลับมาจากผิวเนื้อตึงใต้เสื้อเชิ้ตบางเพื่อปลดกระดุม 


นิ้วขาวเลื่อนลงมาตามหลังคอ ไหล่กว้าง แล้วมาขยุ้มที่แขนเสื้อตรงต้นแขนด้วยความเขินอาย ตาเรียวจ้องมองความรู้สึกในหน่วยตาคมที่ไล่สายตาไปตามผิวของเขาที่กำลังถูกเปิดเผยจากเม็ดสีขาวที่เลื่อนหลุดจากรังดุม


ตาคมฉ่ำด้วยแรงปรารถนาทำให้ทงเฮอดรนทนไม่ไหว   เลื่อนมือขาวบางไปจับแผ่วที่ปลายหางตา   “คิบอม.. อย่าไปมองใครแบบนี้อีกนะ” 


ปากอิ่มระบายยิ้มพร้อมกับที่กระดุมเม็ดสุดท้ายหลุดออก   ความเย็นของอากาศไล่แตะสัมผัสผิวบางทันทีที่เสื้อถูกแหวกออกด้วยมือใหญ่  ปลายนิ้วยาวแตะลงเบา ๆ ที่เอวบางก่อนจะค่อย ๆ ทิ้งน้ำหนักและลากผ่านสีข้าง ชายโครง     สูงขึ้นมาเรื่อย ๆ พร้อมกับสบตาเรียวสวยที่จ้องมองอยู่ก่อน


“ทำไมล่ะทงเฮ”


“... คิบอมทำตาลามก”  ปากบางยิ้มน้อย ๆ ขัดกับแก้มแดงก่ำจนคนที่คร่อมอยู่ด้านบนต้องโน้มลงไปจูบเบา ๆ   ก่อนจะเลื่อนไปสูดแก้มหอมหนัก ๆ


“ไม่ได้ตั้งใจทำหน้าลามกสักหน่อย”


นิ้วเล็ก ๆ ที่ไต่อยู่ตามต้นคอและไรผมทำให้ความร้อนพุ่งริ้วเป็นเส้นๆ  ในอกกว้าง กดจูบบนผิวไหล่เปลือยเรื่อยลงมาจนถึงแผ่นอก


“อื้อออ ... จริงๆ แล้วไม่ใช่หรอก”


“หืม?”   สงสัยแต่ทว่าปากอิ่มก็ยังกดจูบไปเรื่อย ๆ   พร้อมกับมือที่ยังสัมผัสลูบไล้หนักจนถึงแผ่นอกบาง นิ้วยาววนไปมาอยู่อย่างนั้น หน้าคมถูกมือขาวสัมผัสเข้าที่แก้มแล้วรั้งเงยให้สบตา


“ฉันก็แค่.. ไม่อยากให้นายมองคนอื่นเหมือนกัน” 


คิบอมบดปากอิ่มเข้ากับริมฝีปากบางอย่างสุดรักพร้อมปิดกั้นเสียงครางของตัวเล็กทันทีที่นิ้วยาวเขี่ยสัมผัสบนปุ่มเล็กสีอ่อน   บดจูบสอดแทรกลิ้นอุ่นลึก ดูดดึงทุกความรู้สึกของทงเฮให้เปิดเผยออกมาพร้อมกับนิ้วยาวที่คลึงไปจนทั่ว     ทั้งจุดเล็กและแผ่นอกบาง


อาจเพราะลงน้ำหนักมากเกินไปจึงโดนดันแรง ๆ ที่ไหล่  คิบอมจึงถอนจูบช้า ๆ แล้วลากมาที่ปลายคางแหลม  ดูดกระเดือกเล็กๆ เบาๆ เรียกเสียงครางฮือได้อย่างถูกใจ   แล้วไล่ริมฝีปากลงต่ำเพื่อลิ้มรสความหวานล้ำที่รออยู่ที่ปลายนิ้ว


นิ้วเล็ก ๆ นั้นทั้งหยิกทั้งขยุ้มอย่างไม่เกรงใจเส้นผม ต้นคอ และไหล่เขาเลยสักนิด เกิดจากอารมณ์ที่ถูกเขาป้อนให้อย่างต่อเนื่อง และไม่คิดจะหยุด


จุดเล็ก ๆ บนแผ่นอกบาง ๆ ขึ้นสีจัดหลังจากถูกดูดหนักและไล้เลียปลอบใจ รอยแดงที่เกิดจากแรงที่เขาเผลอลงมากไปได้รับการปลอบขวัญด้วยปลายลิ้นลากผ่านเป็นทางยาว


แผ่นอกบางยกขึ้นสูงตามอารมณ์ของเจ้าตัวพร้อมบิดไปมาแต่ไม่สามารถออกจากวงแขนที่สอดรัดไว้ทางด้านหลังได้  เข่าถูกกดลงไปก่อนจะแทรกตัวลงตาม 


ผิวบางทั้งหอมและหวาน  มันเป็นรสที่เกิดจากสัมผัสของความปรารถนาที่ลอยตลบอบอวลจนทำให้เขามัวเมาและดำดิ่งลงไปค้นหา  ลึกล้ำ            จนเหมือนจะสำลักแต่กลับยิ่งตักตวงเอาจากคนตรงหน้าอย่างถึงที่สุด 


เข็มขัดและกางเกงนักศึกษาของคนข้างล่างถูกปลดออกด้วยมือสั่นเทาของเขา  เสียงครางแผ่วเบาผ่านริมฝีปากกัดแน่นยิ่งเร้าให้เขาเร่งทำตามอะไร               สักอย่างที่กำลังอัดแน่นอยู่ภายในอก ปลายนิ้ว ปลายเท้าชาหนึบเพราะเหยียดเกร็งและจิกแน่นบนที่นอน  แขนยาวกอดรัดฟัดคนตัวเล็กอย่างไม่ออมแรง






กำลังจะขาดใจตายแล้ว... อีทงเฮกำลังจะขาดใจ

อยากจะเอามือไปปิดปากร้อน ๆ นั่นไว้ไม่ให้แนบความร้อนไปจนทั่วอย่างนี้  อยากจะหยิกนิ้วยาว ๆ ที่ไล่ลูบไปจนทั่วตัว  อยากจับมือมากัดโทษฐาน ลงแรงกับเขามากไปจนบางทีเขารู้สึกเจ็บ  แต่มือสองข้างที่มีมันสั่นเกินจะทำอะไรไหว  ปากอ้าออกต่อว่าไม่ได้เพราะกลัวจะเผลอครางเสียงสั่น

 
บิดตัวจนเจ็บไปหมด  บิดหนีความร้อนที่สัมผัสลากผ่าน หรือบิดเพราะระบายความอึดอัดก็ไม่รู้    ยอดอกชาหนึบแต่ไวต่อสัมผัสจนน่ากลัว    แค่เพียงลมหายใจร้อนปลิวผ่านก็หวิววาบ แอ่นหลังจนปวดแต่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เลย


เสียงรูดสายเข็มขัดผ่านหัวเหล็ก รูดซิป ตามด้วยสัมผัสของอากาศแตะไล่ไปตามโคนขาพร้อมกับกางเกงที่เขามองเห็นว่าติดไปกับมือใหญ่ และโยนทิ้งลงข้างเตียง 


อายจนต้องพลิกตัวคว่ำหลบ แต่แรงกดแทรกลงระหว่างเข่าทั้งสองข้างและใช้ขาดันก่อนจะแทรกตัวตามลงมาทำให้เขาต้องรีบยกตัวขึ้นนั่ง ท่ามันน่าอายเกินไป อีทงเฮทนไม่ไหวหรอก


“ดะ . .. เดี๋ยว คิบอม คิ ... ฮื้ออ”


แขนยาวสองข้างไวและแข็งแรงเหลือเชื่อ  เพราะทันทีที่เขาลุกขึ้นนั่งและกระเถิบตัวออกแค่เพียงนิดเดียว  เอวก็ถูกสอดรวบแล้วยกตัวจนขึ้นนั่งคร่อมบนหน้าขาแข็ง ๆ ทันที.... คราวนี้น่าอายกว่าเดิมอีก


จูบถูกบดปิดกั้นจนเขาไม่สามารถพูดอะไรต่อได้  พร้อมกับกระชากสติสัมปชัญญะที่เหลืออยู่น้อยนิดให้เลือนหายเป็นช่วง ๆ 


มือสองข้างถูกจับคล้องไปบนหลังคอและไหล่กว้าง  ขาถูกจับจัดวางให้พับอย่างพอเหมาะที่จะทิ้งตัวลงต้นขาคิบอมได้เต็มที่


มือใหญ่ที่จัดขาเขาให้เข้าที่ลูบลากยาวตั้งแต่ข้อเท้าขึ้นมาจนถึงต้นขา วนเวียนลูบไปจนทั่ว สลับกับกดน้ำหนักลงเป็นบางจุดตามต้นขาจนเขาเผลอกระตุก


จุ๊บ


ก่อนจะถอนจูบให้เขาได้กลืนอากาศคำโตอีกครั้ง   แต่ปากร้อน ๆ นั่นกลับไม่หยุดหายใจเหมือนเขา  ยังคงลากผ่านแล้วขบดูดติ่งหูจนเขาเผลอเบียดอกเข้ากับอกกว้างอย่างไม่รู้ตัว


มือลูบไปจนทั่วไหล่กว้างและแผ่นหลัง  ผิวเรียบลื่นที่สัมผัสทำให้ต้องปรายตามอง  เสื้อนักศึกษาของคิบอมหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน


“อื้อออ ... “


ปลายนิ้วยาวที่ไต่ตามกระดูกสันหลังทำให้เขาต้องยืดหลังตรงเพราะความวาบหวิวพุ่งเข้าเล่นงาน แต่กลับเป็นการเปิดทางให้อกอยู่ในระดับพอเหมาะกับปากอิ่ม หน้าคมฝังลงที่อกขาวแล้วดูดดึงเม็ดนิ่มจนต้องเผลอจิกลงแผ่นหลังสุดแรง


“อึก  อืออออ ..”


มือใหญ่อีกข้างที่ลูบไล้อยู่บริเวณต้นขา กดน้ำหนักด้วยปลายนิ้วหัวแม่มือวนไปมา ค่อย ๆ  แทรกลึกเข้าสู่ความร้อนรุ่มที่เบียดเนื้อตัวแนบชิดกัน  ทันทีที่สัมผัสเข้ากับบางส่วนเขาสะดุ้งเฮือกและใช้แรงทั้งหมดที่มีผลักอกกว้างทันที


“ไม่.. เดี๋ยว... คิบอม”


มือนั้นไม่หยุดอย่างที่เขาขอ  หรือเพราะคำขอของเขามันแผ่วเบาไร้ซึ่งน้ำหนักจนเกินไป  น้ำหนักฟันที่ขบลงตามลาดไหล่และความอุ่นชื้นเลียไล้ช่วยบรรเทาอาการหวาดหวั่นในอก


ยิ่งร้อน  ยิ่งล้วงลึก ยิ่งรูดรั้ง ยิ่งลงน้ำหนัก


มุดหน้าลงตรงฐานคอที่เชื่อมกับไหล่กว้าง  แขนโอบรอบคอแน่นบางห้วงที่อารมณ์พุ่งขึ้นสูงฟันซี่เล็กลากลงบนผิวเนื้อแน่น ๆ แต่ก็แทบไม่ช่วยอะไร


อะไรบางอย่างแล่นผ่านปลายประสาทนิ้วมือ นิ้วเท้า ค่อยๆ ไหลเข้ามารวมกันที่ช่องท้อง  ส่วนหนึ่งค่อย ๆ อัดแน่นลงล่าง    อีกส่วนกระจุกอยู่ตรงกลางอกและแน่นขึ้นเรื่อย ๆ ตามจังหวะรูดรั้งของคนที่หอบหายใจหนักไม่ต่างกัน


ความจุกแน่นอกบีบอัดขึ้นสูง จนต้องหลับตากัดปากแน่นและแหงนเงยจนสุดคอก่อนจะวาบขึ้นสู่สมองจนขาวโพลนพร้อม ๆ กับอะไรสักอย่างที่หลุดออกจากลำตัวจนต้องกระตุกซ้ำ ๆ 


แขนที่คล้องรอบคอทิ้งลู่ลงตามแรงโน้มถ่วง   ศีรษะที่แหงนเงยเอนหงายลงด้านหลัง มือใหญ่ที่ประคองท้ายทอยค่อย ๆ ผ่อนน้ำหนักแล้วเอนวางเขาลงจนแผ่นหลังและท้ายทอยแนบไปกับที่นอนนุ่ม


“แฮ่ก แฮ่ก ... ฮืออออ”  


คนตัวเล็กหอบหายใจและครางหวานในลำคอ ตายังคงปิดแน่น ปากเผยอหอบ ทิ้งน้ำหนักตัวทุกอย่างลงที่คนข้างล่าง แม้จะผ่อนวางลงบนที่นอนแล้วแต่คนตัวเล็กก็ยังทิ้งแขนขาอย่างหมดสิ้นเรี่ยวแรง


คิบอมโน้มตัวลงไปจูบที่เปลือกตาบางเบา ๆ แล้วย้ายมากดจูบตรงตำแหน่งของหัวใจ  ดูดชิมความหวานของเนื้อบางจนขึ้นเป็นจ้ำตอกย้ำตำแหน่งที่เขาหมายมั่น 


มือข้างที่ว่างขยับจัดท่าทางของคนที่ยังนอนหอบให้พอเหมาะ ส่วนอีกข้างที่เลอะนั้นเลื่อนลงยังจุดซ่อนเร้นช้า ๆ


ความรู้สึกบางอย่างที่วิ่งไปทั่วร่างแล้วหลุดหายกลับมาอีกครั้งหลังถูกแตะสัมผัสบางส่วนแค่เพียงนิด

เหมือนปลายนิ้ว  พื้นผิว  และทุกที่ตอบสนองแม้กระทั่งลมอ่อนปลิวผ่าน ประสาอะไรกับสัมผัสของคนที่ยังแทรกตัวอยู่หว่างขา  วนเวียนลูบไล้จนเขาต้องครางผ่านลำคอเพราะถูกปลุกเร้าอีกครั้ง


และคราวนี้มันรวดเร็ว หนักหน่วง


ความร้อนวิ่งเป็นเส้นริ้ว ๆ จากกึ่งกลางลำตัวไปจนทั่วทุกจุด ไม่ว่าจะเป็นปลายผมหรือปลายนิ้ว พร้อมๆ ความเจ็บ  คับ  แน่น   จนเหมือนจะตัวจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ  เสียวซ่านจนต้องกัดปากแน่นจนเจ็บ  ปลายนิ้วหยิกทึ้งที่นอนและเนื้อแน่นๆ ของคนต้นเหตุจนนิ้วชาและปลายเป็นสีขาว  ปลายนิ้วเท้าเองก็เกร็งจนเจ็บชาไม่ต่างกัน


“อื้ออ คิบอม ... คิบอม”


ตัวโยกคลอน  สั่นไหว  พยายามเงยหน้าขึ้นมองแต่ทำไม่ได้เพราะ แรงโถมซัดจนหัวสั่นคลอนหงายเงย  มือใหญ่กดหนักที่เอวทั้งสองข้างจนอึดอัดและหลังติดแน่นอยู่กับพื้นเตียง 


“ฮะ  ฮะ .. ฮึก  อื้อออออออ” 


มือใหญ่ข้างหนึ่งละจากเอวไปเริ่มลูบขึ้นลงตามความยาวของบางส่วนที่ตอบสนองความรู้สึกอย่างรวดเร็วและเริ่มรูดรั้งอีกครั้งตามจังหวะเคลื่อนกายมือเล็กปัดป่ายแล้วคว้าหมับตรงข้อมือใหญ่ที่ทำหน้าที่เร่งจังหวะให้เขาสะท้าน


“เบาๆ  ... เจ็บ”


น้ำหนักผ่อนลงพร้อมกับตัวโตที่โน้มลงมาแนบชิดและจูบลึก แขนยาวข้างหนึ่งสอดเข้าใต้รักแร้อ้อมแผ่นหลังไปกดไหล่เล็กไว้แน่น  ถอนจูบหวานแล้วแนบริมฝีปากลงที่ไหล่ ก่อนเริ่มขยับกายอีกครั้ง...อย่างหนักหน่วง


แขนที่ล็อคตัวไว้ทำให้เขาไม่สามารถบิดหรือขยับกายหนี   จึงคล้องคอคนตรงหน้าแล้วกอดไว้แน่นเพื่อจับจังหวะเคลื่อนไหวไปด้วยกัน  เพราะค้นพบแล้วว่าวิธีนี้ทำให้เขาเจ็บ..น้อยลง




รูดรั้ง รุ่มร้อน หนักหน่วง ย้ำลึกซ้ำๆ  ก่อนที่บางสิ่งจะระเบิดขาวโพลนในหัวสมองอีกครั้งพร้อมกับเสียงทุ้มครางยาวคล้ายคนทรมานจวนเจียนขาดใจ