วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2556

IBYS 2_SPIII ห้องนอนริมทะเล







               เมื่อถูกรบกวนเวลานอน เสียงแหบจึงครางก่อนจะพยายามฝืนแรงต้านที่        รัดเอวไว้จนพลิกคว่ำได้  คนต้นเหตุเมื่อเห็นดังนั้นควรจะผละไปแล้วปล่อยให้นอนพัก แต่หากทำอย่างนั้นก็คงไม่ใช่คิมคิบอมคนเอาแต่ใจที่อีทงเฮบ่นอยู่บ่อย ๆ

                ตัวบางนอนคว่ำราบไปกับเตียงนุ่ม ฝังใบหน้าง่วงงุนลงกับหมอน  สอดแขนและมือสองข้างเข้าลูบหาความเย็ใต้หมอนใบใหญ่  เกือบจะเผลอหลับไปอีกครั้ง           ถ้าไม่ติดที่น้ำหนักตัวอันแสนคุ้นเคยทาบทับลงมาเสียก่อน

                คิมคิบอมตามมาทาบทับทันทีเมื่ออีทงเฮพลิกคว่ำ  ปากอิ่มร้อนเริ่มทำงานของตนอย่างเต็มที่  ตาคมกวาดมองพลางกดจูบตามผิวเนื้อนุ่ม  เสื้อกล้ามเนื้อบางที่อีทงเฮใส่แทบไม่ช่วยกั้นสัมผัสที่คิมคิบอมกำลังหยิบยื่นให้เลย

              สอดฝ่ามือเข้าใต้เสื้อกล้ามแล้วถลกขึ้นสูง มืออีกข้างลูบไล้ผิวเนื้อที่ถูกเผยก่อนจะแนบริมฝีปากเชยชมกลิ่นหอม ปลายลิ้นแตะชิมและลากเรื่อยพร้อมลมหายใจร้อนตั้งแต่บั้นเอวถึงสะบักหลังจนคนนอนคว่ำสะดุ้งเฮือก

                 “อื้อออออ”

              ใบหน้าเรียวสวยแต่ยังเต็มไปด้วยความง่วงงุนยกขึ้นสูง พยายามเปิดเปลือกตาขึ้นแล้วกวาดสายตามองก่อนจะเอี้ยวกลับมามองด้านหลัง  ไม่เห็นอะไรในรัศมีสายตานอกจากกลุ่มผมสีดำสนิทที่ขยับไปมาเพราะเจ้าตัวมัวเมาอยู่กับผิวและแผ่นหลังบาง สัมผัสลูบไล้หนักขึ้นเรื่อย ๆ ส่งสัญญาณว่าคิมคิบอมกำลังทวงสิ่งที่อีทงเฮติดค้างก่อนนอนเมื่อคืน

                “อืออออออ”

              ผิวแก้มร้อนผ่าวเมื่อรับรู้ถึงความต้องการของอีกคนผ่านเนื้อตัวแนบชิด  มือเล็กกำแน่นใต้หมอนที่ตัวเองซุกหน้าไว้  ปากบางขบกันด้วยความหวามเมื่อมือยาว ข้างหนึ่งเค้นคลึงสะโพกและต้นขา  ท่อนขาแข็งๆ กดให้ขาเรียวแยกห่างก่อนที่ทั้งท่อนล่างของคิมคิบอมจะแทรกลงไปอยู่ตรงกลางของอีทงเฮ

                “อือออ อึก....”

             มืออีกข้างลากจากแผ่นหลังลงมาหาปุ่มเนื้อนุ่ม  ปลายนิ้วบดคลึงหยอกเย้าจนต้องยกแผ่นอกขึ้นสูงเพื่อหนีสัมผัสแต่กลับกลายเป็นเปิดทางให้สอดมือได้สะดวก   เสื้อกล้ามถูกดึงพ้นศีรษะเล็กและอีทงเฮเป็นคนจับเสื้อให้หลุดพ้นช่วงแขนของตน  เมื่อพบว่าเสื้อตัวน้อยรั้งให้ขยับแขนไม่สะดวก  ก่อนจะหลุดเสียงครางเพราะกลั้นไม่ไหวเมื่อคิมคิบอมเลื่อนขึ้นมาฝังใบหน้าลงที่หลังคอพร้อมไล้ลิ้นอุ่นชื้น

                “อ่า... อึก”

                น้ำหนักถูกทิ้งลงศอกที่ค้ำกับที่นอนนุ่มเพื่อพยุงตัวให้ลอยขึ้นจากที่นอน หนีความรุ่มร้อนที่ล้วง กด คลึง  จนทั่วหน้าอกของเขา  เหมือนหนีเสือปะจระเข้ไม่น้อยเพราะเมื่อยกตัวขึ้นก็ยิ่งทำให้แผ่นหลังแนบชิดกับแผ่นอกแน่น ๆ และริมฝีปากร้อนที่บดจูบไปจนทั่ว

                “อือออออ”

                มือเล็กทั้งกำ ทั้งขยำผ้าปูใต้หมอนจนยับยู่ติดมือก่อนครางฮืออีกครั้งเมื่อมือนั้นลากดึงกางเกงนอนเนื้อนุ่มให้หลุดจากสะโพก

                อีทงเฮพลิกจากคว่ำเป็นหงายด้วยแรงของคิมคิบอม  เพียงแค่พลิกกลับมาประจันหน้าอีทงเฮก็ถูกสายตาวาวด้วยความปรารถนาแผดเผาจนผิวหน้าแดงก่ำ       ปากเล็กขบริมฝีปากแน่นด้วยความเขินอาย  ใบหน้าคมโน้มลงมาเคลียจมูกโด่งเข้ากับจมูกของเขาไปมาเบา ๆ ก่อนจะสูดกลิ่นแก้มของเขาเข้าไปฟอดใหญ่แล้วเสิร์ฟจูบหวานล้ำปลุกทุกประสาทสัมผัสในกายให้ลุกฮือ






                ดึงกางเกงเนื้อนุ่มออกจากขาเรียวด้วยมืออันสั่นเทา  นี่อายุเขาปาเข้าไปเท่าไหร่  นี่ครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่ได้แนบชิดกายบอบบางผิวหอมอ่อนตรงหน้า

                ...แต่ทำไมคิมคิบอมถึงยังสั่น

                กลิ่นหอมจางติดผิวชวนให้มัวเมา ราวกับมีมนต์สะกดให้บดหน้าเบียดแล้วสูดกลิ่นซ้ำๆ  ปากบางๆ สีฉ่ำนั้นหวานจนกลืนกินเท่าไหร่ก็ไม่เคยอิ่ม ไม่เคยพอ

                ดันกายลุกขึ้นนั่งแล้วรูดเสื้อนอนออกจนพ้นตัว  และกางเกงนอนของเขาก็ปลิวหลุดจากกายในเวลาสั้นๆ ต่อจากนั้น  ผิวเนื้ออุ่นตึงกระชับดึงดูดให้ใช้ฝ่ามือลูบไล้ คลึงไปทั่วพอๆ กับอยากให้ผิวของตัวเองในทุก ๆ ที่เสียดสีกับผิวอุ่นของอีทงเฮ

                แก้มแดงก่ำตาฉ่ำวาว กิริยาบิดกายหนีฝ่ามือของเขาน้อย ๆ ช่างน่ารัก   คิมคิบอมเบียดตัวทิ้งน้ำหนักลงเต็มที่ กดคนใต้ร่างให้จมลงกับที่นอน ใช้มือซ้อนดันแผ่นหลังแล้วเบียดตัวเสียดสีไปมาราวกับจะฝังอีทงเฮให้จมหายลงไปในอกเขา

                ... ถ้าทำอย่างนั้นได้จริงจะรู้สึกอิ่ม รู้สึกพอหรือเปล่านะ คิมคิบอม




                จุกเล็กเนื้ออ่อนเต้นตุบตับอยู่ที่ปลายลิ้นก่อนจะแข็งขืนสู้  หวานล้ำจนดูดกินขบกัดซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้แดงก่ำ  ผิวเนื้อแผ่นอกราบก็หวานล้ำไม่ต่างกัน  คิมคิบอมกัด ลากฟันซ้ำ ๆ ราวกับจะกินอีทงเฮให้หมดทั้งตัว


                “อื้ออออ”


             มือเล็กสอดเข้ามาที่ท้ายทอยแล้วกดพลางแอ่นอกขึ้นหาริมฝีปาก  เป็นอาการตอบรับความเสียวซ่านที่เข้าใจได้ง่ายนัก  ไซ้ใบหน้าขึ้นไปหาซอกคอขาวกดจูบที่กระเดือกเล็กแหลมแล้วแวะไปเชยชมไฝเม็ดเล็กที่เขารักนักหนาบนลำคอขาวผ่อง ดูดผิวเนื้อติดริมฝีปากขึ้นมาจนอีทงเฮสะท้านและขยุ้มผมของเขาเต็มแรง


                “ฮ้า.. คิบอม~

              ขาเรียวหนีบข้างสะโพกเขาแน่นตามอารมณ์หวามไหว  กายบางบิดเลี้อยไปมาบนที่นอนนุ่มด้วยความต้องการเริ่มประทุ  ส่งสารผ่านแววตาฉ่ำวาว ปากเผยออ้า และดันกายขึ้นเบียดหาอย่างเต็มอกเต็มใจ  คิมคิบอมทวงสิ่งที่อีทงเฮติดค้างไว้อย่างช้าๆ แต่ทว่าเร่าร้อนนักจนเสียงแหบครางไม่หยุด

                “ฮะ ฮะ ... อะ  อื้อออออออออ”

         ความร้อนรุ่มที่บดเบียดกันถูกฝ่ามือกุมรอบ รูดและปรนเปรอจนกายกระตุกและสะโพกเล็กลอยแอ่น  คิมคิบอมเคลื่อนกายเพิ่มพื้นผิวให้เสียดสีอย่างเป็นจังหวะ  เหงื่อเม็ดโตไหลจากหน้าผากและหยดเข้าที่หางตา นำพาความแสบร้อนจนต้องดึงมือที่ค้ำฟูกเพื่อพยุงน้ำหนักตัวเองไว้มาปาดหยดเหงื่อแล้วสลัดทิ้งไป

                ผิวกายขาวนวลของคนด้านใต้บัดนี้ชื้นเหงื่อ  มือน้อยบีบขยุ้มไปตามต้นแขนและไหล่  กำมือเล็กเข้ากับเนื้อแน่นยามที่เขาเร่งจังหวะให้กระชั้นเพื่อนำพาคนตัวเล็กสู่จุดหมาย  แผ่นอกบางยกสูงแอ่นจนเงยหงายก่อนจะหลุดเสียงครางยาว และปลดปล่อยบางสิ่งออกมาพร้อมกับอารมณ์ที่พุ่งสูงสุดจนกายบางกระตุกถี่ๆ  

                “อึก อึก ... อื้อออออ ........”

            วงหน้าสวยแดงก่ำแต่ตาเรียวยังปรือมองอยู่  ปากอ้าโกยหอบลมหายใจเข้าปอดจนแผ่นอกยวบยาบ  นัยน์ตาสวยลอยวูบก่อนจะหยีทั้งหน้าเมื่อเส้นประสาททั่วร่างขมวดตึง  อารมณ์ภายในพุ่งขึ้นสูงจนใบหน้าเรียวส่ายใบหน้าเสียดกับผิวที่นอนแรง ๆ มือที่กำแขนเขาไว้ขยำจิกปลายนิ้วจนสุดแรงอยู่สักพักแล้วจึงค่อยคลายออก แล้วลูบมือบางไปตามกล้ามเนื้อต้นแขนเขาช้าๆ

                   “คิบอม

                เสียงทุ้มหัวเราะในลำคอเพราะภาพแสนสวยตรงหน้า  อีทงเฮที่ไปถึงฝั่งก่อนไม่ได้หลับหูหลับตาปิดหน้าเอียงหนีเหมือนเมื่อครั้งอ่อนวัยกว่านี้  มือเล็ก ๆ ที่เคยกำจิกมือตัวเองยามขวยเขินไม่มีให้เห็น  วันนี้อีทงเฮกำลังใช้มือน้อยนั้นลูบไล้ไปมาบนลอนกล้ามของเขาที่แผ่นอกและหน้าท้อง  ฟันขาวซี่เล็กถูกขบเข้ากับริมฝีปากล่าง


                   ......อย่างยั่วเย้า ต่อหน้าเขาที่ยังทาบทับและแทรกตัวอยู่ระหว่างขาสองข้างของอีทงเฮ

                “ยั่วนัก ระวังจะไม่ได้เปิดร้าน”

                “อือออออ ใครยั่ว ไม่มีหรอก”

                ปฏิเสธด้วยเสียงแหบแผ่วๆ แต่แย้มรอยยิ้มบางบนใบหน้าสวย  คิบอมหายใจหนัก พลางใช้มือลูบเม็ดเหงื่อพราวบนหน้าผากได้รูปและหยุดมือไว้ที่แก้มนุ่มเมื่อเจ้าของแก้มเบียดใบหน้าเข้าหาฝ่ามือเขาพร้อมรอยยิ้มมุมปากบางเบาอีทงเฮยิ้มพรายในดวงหน้าพร้อมเสียงแหบหวานเอ่ยบางคำให้ได้ยิน

                “ติดไว้เท่าไหร่ อย่าลืมเก็บไปให้หมดนะ”

                “หึ  โทรศัพท์ทงเฮอยู่ไหน”

                “ถามทำไม  เวลาอย่างนี้นายถามหาโทรศัพท์เหรอคิบอม”

                รูปประโยคเหมือนจะเอาเรื่องแต่น้ำเสียงยังคงหยอกเย้าในที  นี่อีทงเฮจะยั่วให้เขาใจขาดให้ได้เลยใช่ไหม

                “ถามหาเพราะมันต้องใช้”

                “โทรศัพท์?... นายจะใช้ทำอะไร”

                “โทรบอกแอลว่าวันนี้ร้านกาแฟจะไม่เปิดทำการ เพราะเจ้าของร้านเดินไม่ไหว”

                “บ้า!!

                เสียงแหวมาพร้อมกำปั้นทุบลงที่แผ่นอก  คิมคิบอมคว้ากำปั้นนั้นไว้ด้วยฝ่ามือแล้วยกขึ้นจูบ จนอีทงเฮยิ้มกัดปาก  กายหนาแนบลงไปอีกครั้งพร้อมสอดมือเข้าแผ่นหลังแล้วกอดแนบใบหน้าลงไปเร็วๆ เพื่อใช้ไรหนวดที่ริมฝีปากและคางบดลงกับ ผิวคอและไหล่ของคนช่างยั่วแรงๆ

                “โอ๊ะ  โอ๊ยย ฮ่า ๆ ไม่เอา  ไม่  อ่า อ๊ะ อ๊ะ มันจั้กกะจี๋นะคิบอม  โอ๊ย ไม่เอาอ่า คิก คิก ”




                ปากบางที่กำลังหอบอยู่จึงเหยียดเป็นยิ้มหวานส่งให้  ตาเรียววาววับด้วยประกายพึงพอใจ 
เหมือนอีทงเฮจะไม่เกรงกลัวถ้อยคำคาดโทษ  “เดี๋ยวเถอะ” จากคนตัวโต
x

                ฟัดจนหนำใจจนอีทงเฮหอบหายใจตัวโยนแล้วคิมคิบอมจึงค่อยกดจูบที่ แผ่นอกบาง  จูบตรงตำแหน่ง
ที่เขารัก และจูบจนเกิดรอยรักทุกครั้งที่ได้แนบชิดกายไว้กับหัวใจดวงเล็กใต้แผ่นอกนี้

                “ทำรอยอีกแล้วเหรอ”

                “อืมม  เผื่อใครไม่รู้ว่านี่ของฉัน” คิมคิบอมตอบอู้อี้เพราะปากร้อน ๆ ง่วนอยู่กับการดูดผิวเนื้อบางจนจ้ำสีแดงเรื่อปรากฏ

                คนตัวเล็กขำคิกในลำคอก่อนจะไต่ปลายนิ้วตามผิวเนื้อแน่น บ่ากว้างเบา ๆ

                “แล้วฉันต้องทำบ้างหรือเปล่าล่ะ”

                “ตามใจ  จะทำรอยเล็บ รอยหยิกก็ตามสบาย  หรือจะเป็นรอยฟันเหมือนตอนนั้นฉันก็ชอบนะทงเฮ”

                ใบหน้าเรียวยกขึ้นมากดจูบที่แก้มพองเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยกลั้วน้ำเสียงคิกคัก  พร้อมรอยยิ้มหวานฉ่ำ

                “งั้นฉันไม่ต้องทำก็ได้  ฉันรู้นานแล้วว่าตรงนี้ของใคร”

             ปลายนิ้วเล็กจิ้มตรงแผ่นอกหนา ที่มีหัวใจของบางคนเต้นกระหน่ำ คนช่างยั่วที่ไม่รู้ตัวว่ากำลังล้อเล่นกับเปลวไฟปรารถนาอาจต้องจำวันนี้ไปอีกแสนนานเพราะการกระทำที่ตัวเองก่อไว้  ส่งผลให้นับแต่พระอาทิตย์ดวงกลมเริ่มแตะขอบฟ้าจนเคลื่อนสูงเกือบตรงหัว  อีทงเฮไม่มีสิทธิ์แม้หย่อนขาเล็กลงจากเตียง




                แค่เพียงได้แทรกกายให้ความอ่อนนุ่มและรุ่มร้อนโอบล้อมเสียงทุ้มก็พร่าสั่น แขนสองข้างที่ค้ำฟูกไว้เกร็งจนเนื้อกล้ามขึ้นเป็นมัดและตาคมหยี

                ภายนอกสว่างมากจนใบหน้าคิมคิบอมลอยเด่นชัด  หยดเหงื่อรินตามโครงหน้าคมไหลมาทิ้งตัวตามแรงโน้มถ่วงที่ปลายคาง  เส้นผมสีดำสนิทชื้นและไม่เป็นทรง  ทว่าคนตรงหน้ายังคงหล่อเหลาและมีเสน่ห์เหลือเกิน

                สะโพกลอยสูงเพราะมีหมอนนุ่มรองไว้ด้านใต้  เป็นท่าที่อีทงเฮโคตรจะอายแต่ก็รู้ว่ามันทำให้ทุกอย่าง สะดวก’ มากขึ้น  สะดวก แต่ไม่สบาย  อึดอัดจนต้องขยับตัวเองเพื่อให้แข้งขาถูกท่า  ฝ่ามือร้อนแนบลงที่เอวแล้วกดคลึงปลายนิ้วเรียกอารมณ์ซ่านจนต้องครางหวิวตอบรับ

                รู้ว่าอีกฝ่ายรอเพียงแค่เขาพร้อม  ดวงตาสีนิลสื่อถึงแรงปรารถนาที่สาดซัดและรอจะถาโถม อีทงเฮใช้ศอกค้ำดันตัวเองให้ลุกจากที่นอนพร้อมกับคล้องแขนอีกข้างเข้าที่บ่ากว้างเพื่อเป็นที่เหนี่ยวกาย  เห็นดังนั้นคนที่แทรกกายอยู่ตรงกลางจึงดึงหมอนนุ่มออกและขยับเปลี่ยนท่าทางทันที

                ยิ่งเปลี่ยน ยิ่งลึก ยิ่งอึดอัด ตาเรียวปรอยมองหน้าคมตรงหน้าด้วยความรักใคร่  คล้องแขนเข้ากับคอหนา แตะปลายนิ้วไปตามโครงหน้าหล่อเหลา จมูกโด่ง  ปากอิ่มที่เหยียดเป็นเส้นตรง นิ้วชี้น้อยแตะลากจากปลายจมูกจนถึงขอบดวงตา

                ปากบางเจ่อพรมจูบหวานตามทางที่ปลายนิ้วตนลากผ่าน  จูบซับความชื้นและความสั่นสะท้าน
เพราะอีกคนยังเก็บกักความต้องการไว้ นัยน์ตาสีดำสนิทที่มองจ้องเป็นราวกับกระจกใส สะท้อนภาพเรียวหน้าของตนที่ยามนี้ฉ่ำด้วยแรงปรารถนา ไม่ต่างกัน

                มือร้อนคู่เดิมโอบไล้ไปทั่วแผ่นหลัง  เลื่อนลงต่ำขยำก้อนเนื้อนุ่มช้า ๆ  ก่อนจะประคองสะโพกเล็กที่ทับอยู่ที่กลางลำตัวแน่นกล้ามเนื้อ  มือใหญ่ค่อยขยับเริ่มจังหวะให้สะโพกบางเคลื่อนตาม

                “อืออ....”

                ราวกระแสไฟฟ้าอ่อนบางแล่นปราดไปมาอยู่ลึกในกาย  บางเสี้ยวแลบแปล้บจนแปลบซ่านทั่วท้องน้อย  ลมร้อนจากจมูกและริมฝีปากของอีกคนเป่ารดที่ใบหูและซอกคอ  กลิ่นผิวถูกสูดดมอย่างไม่รู้จักพอจนสงสัยว่ากายเขาจะยังมีกลิ่นใดหลงเหลือจากนี้

                จังหวะเนิบนาบค่อย ๆ แปรเปลี่ยน  ขยำเนื้อหนักขึ้นเพื่อเร่งจังหวะ  ลึก ร้อน เสียด ถูกดึงความสนใจไปที่ลาดไหล่ที่ถูกเล็มด้วยริมฝีปาก และแค่เพียงอีทงเฮแอบเปลี่ยนจังหวะนอกเหนือที่ถูกชักพาบ้าง  เสียงทุ้มก็แตกพร่าครางกระเส่าชิดใบหู

                “อา.... ทงเฮ”


            เคยมีใครบอกคิมคิบอมหรือเปล่านะ  ว่าเสียงทุ้ม ๆ ยามแตกพร่า...ช่างเซ็กซี่นัก  ฟันซี่เล็กกัดริมฝีปากล่างของตนด้วยความขลาดเขินแต่พอใจอยู่ลึก ๆ  ยิ่งมีชื่อของตนเองผ่านพ้นริมฝีปากอิ่มของคนรัก อีทงเฮก็ยิ่งอยากได้ยินจนแอบทำซ้ำอยู่บ่อย ๆ  จนกระทั่งฝ่ามือร้อนทาบเข้าแก้มทั้งสองข้างแล้วแนบริมฝีปากลงมาบดจูบร้อนคว้านต้อนดูดกลืนลิ้นจนชา สะโพกเล็กจึงได้หยุดจังหวะและกอดกระชับแขนกับต้นคอหนาก่อนที่จะอ่อนเปลี้ยสิ้นเรี่ยวแรงเพราะรสลิ้นไปมากกว่านี้

                ขบติ่งเนื้อนิ่มแล้วจึงค่อยกระซิบเสียงทุ้มใส่ใบหู  “จะให้ขาดใจตายเลยหรือไง”  


                แผ่นหลังบางถูกเอนลงแนบฟูกนุ่มอีกครั้ง เสียงแหบครางแล้วหยุดแล้วครางซ้ำวนไปมาหลายต่อหลายรอบ น้ำเสียงที่ลอยล่องปะปนเสียงลมทะเลบอกถึงอารมณ์สุขสมและทรมานเหลือแสน กายเล็กบอบบางโยกไหว สั่นคลอน ผมนุ่มสีน้ำตาลเข้มแผ่กระจายบนที่นอน  เสียงดูดดึงผิวเนื้อแทรกเสียงครางฟังดูหยาบโลนทะลึ่งนักแต่สร้างความสุขล้ำเช่นกัน

                เสียงทุ้มครางต่ำในลำคอยามที่อารมณ์ร้อนในกายพุ่งขึ้นสูงสุด น้ำหนักตัวที่มีโถมซัดใส่อีกฝ่ายไม่มีผ่อนแรงเมื่อร่างเล็กปรับตัวจนลื่นไหลได้ตามกลไกธรรมชาติ  หยาดเหงื่อผุดเป็นเม็ดเกาะชื้นจนทั่วตามผิว จมูกโด่งสูดกลิ่นอายแห่งความปรารถนาที่แผ่ออกจากกายขาวนวล  กลิ่นความหวานอบอวลบนเตียงให้ดำดิ่งลึกลงในวังวน จนแทบไม่เหลือสติให้คำนึงถึงสิ่งอื่นใด


                นานเท่าที่แรงกายยังเหลือ  นานเท่าที่คนรักยังไหว  นานเท่าที่เจ้าตัวพอใจ   ตักตวงความอิ่มเอมในเพศรส  ชดเชยความคิดถึงที่ทรมานมาหลายค่ำคืน

                และนานเท่าที่กายเล็กหอมหวานยังยื่นเสนอให้ด้วยอ้อมกอดเล็ก ๆ แต่แสนอ่อนโยนของอีทงเฮ