เมื่อถูกรบกวนเวลานอน
เสียงแหบจึงครางก่อนจะพยายามฝืนแรงต้านที่
รัดเอวไว้จนพลิกคว่ำได้ คนต้นเหตุเมื่อเห็นดังนั้นควรจะผละไปแล้วปล่อยให้นอนพัก แต่หากทำอย่างนั้นก็คงไม่ใช่คิมคิบอมคนเอาแต่ใจที่อีทงเฮบ่นอยู่บ่อย
ๆ
ตัวบางนอนคว่ำราบไปกับเตียงนุ่ม
ฝังใบหน้าง่วงงุนลงกับหมอน สอดแขนและมือสองข้างเข้าลูบหาความเย็นใต้หมอนใบใหญ่ เกือบจะเผลอหลับไปอีกครั้ง ถ้าไม่ติดที่น้ำหนักตัวอันแสนคุ้นเคยทาบทับลงมาเสียก่อน
คิมคิบอมตามมาทาบทับทันทีเมื่ออีทงเฮพลิกคว่ำ ปากอิ่มร้อนเริ่มทำงานของตนอย่างเต็มที่ ตาคมกวาดมองพลางกดจูบตามผิวเนื้อนุ่ม
เสื้อกล้ามเนื้อบางที่อีทงเฮใส่แทบไม่ช่วยกั้นสัมผัสที่คิมคิบอมกำลังหยิบยื่นให้เลย
สอดฝ่ามือเข้าใต้เสื้อกล้ามแล้วถลกขึ้นสูง
มืออีกข้างลูบไล้ผิวเนื้อที่ถูกเผยก่อนจะแนบริมฝีปากเชยชมกลิ่นหอม ปลายลิ้นแตะชิมและลากเรื่อยพร้อมลมหายใจร้อนตั้งแต่บั้นเอวถึงสะบักหลังจนคนนอนคว่ำสะดุ้งเฮือก
“อื้อออออ”
ใบหน้าเรียวสวยแต่ยังเต็มไปด้วยความง่วงงุนยกขึ้นสูง
พยายามเปิดเปลือกตาขึ้นแล้วกวาดสายตามองก่อนจะเอี้ยวกลับมามองด้านหลัง
ไม่เห็นอะไรในรัศมีสายตานอกจากกลุ่มผมสีดำสนิทที่ขยับไปมาเพราะเจ้าตัวมัวเมาอยู่กับผิวและแผ่นหลังบาง
สัมผัสลูบไล้หนักขึ้นเรื่อย ๆ ส่งสัญญาณว่าคิมคิบอมกำลังทวงสิ่งที่อีทงเฮติดค้างก่อนนอนเมื่อคืน
“อืออออออ”
ผิวแก้มร้อนผ่าวเมื่อรับรู้ถึงความต้องการของอีกคนผ่านเนื้อตัวแนบชิด มือเล็กกำแน่นใต้หมอนที่ตัวเองซุกหน้าไว้ ปากบางขบกันด้วยความหวามเมื่อมือยาว ข้างหนึ่งเค้นคลึงสะโพกและต้นขา ท่อนขาแข็งๆ กดให้ขาเรียวแยกห่างก่อนที่ทั้งท่อนล่างของคิมคิบอมจะแทรกลงไปอยู่ตรงกลางของอีทงเฮ
“อือออ อึก....”
มืออีกข้างลากจากแผ่นหลังลงมาหาปุ่มเนื้อนุ่ม ปลายนิ้วบดคลึงหยอกเย้าจนต้องยกแผ่นอกขึ้นสูงเพื่อหนีสัมผัสแต่กลับกลายเป็นเปิดทางให้สอดมือได้สะดวก เสื้อกล้ามถูกดึงพ้นศีรษะเล็กและอีทงเฮเป็นคนจับเสื้อให้หลุดพ้นช่วงแขนของตน เมื่อพบว่าเสื้อตัวน้อยรั้งให้ขยับแขนไม่สะดวก ก่อนจะหลุดเสียงครางเพราะกลั้นไม่ไหวเมื่อคิมคิบอมเลื่อนขึ้นมาฝังใบหน้าลงที่หลังคอพร้อมไล้ลิ้นอุ่นชื้น
“อ่า... อึก”
น้ำหนักถูกทิ้งลงศอกที่ค้ำกับที่นอนนุ่มเพื่อพยุงตัวให้ลอยขึ้นจากที่นอน
หนีความรุ่มร้อนที่ล้วง กด คลึง จนทั่วหน้าอกของเขา
เหมือนหนีเสือปะจระเข้ไม่น้อยเพราะเมื่อยกตัวขึ้นก็ยิ่งทำให้แผ่นหลังแนบชิดกับแผ่นอกแน่น
ๆ และริมฝีปากร้อนที่บดจูบไปจนทั่ว
“อือออออ”
มือเล็กทั้งกำ
ทั้งขยำผ้าปูใต้หมอนจนยับยู่ติดมือก่อนครางฮืออีกครั้งเมื่อมือนั้นลากดึงกางเกงนอนเนื้อนุ่มให้หลุดจากสะโพก
อีทงเฮพลิกจากคว่ำเป็นหงายด้วยแรงของคิมคิบอม เพียงแค่พลิกกลับมาประจันหน้าอีทงเฮก็ถูกสายตาวาวด้วยความปรารถนาแผดเผาจนผิวหน้าแดงก่ำ
ปากเล็กขบริมฝีปากแน่นด้วยความเขินอาย
ใบหน้าคมโน้มลงมาเคลียจมูกโด่งเข้ากับจมูกของเขาไปมาเบา ๆ ก่อนจะสูดกลิ่นแก้มของเขาเข้าไปฟอดใหญ่แล้วเสิร์ฟจูบหวานล้ำปลุกทุกประสาทสัมผัสในกายให้ลุกฮือ
ดึงกางเกงเนื้อนุ่มออกจากขาเรียวด้วยมืออันสั่นเทา นี่อายุเขาปาเข้าไปเท่าไหร่
นี่ครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่ได้แนบชิดกายบอบบางผิวหอมอ่อนตรงหน้า
...แต่ทำไมคิมคิบอมถึงยังสั่น
กลิ่นหอมจางติดผิวชวนให้มัวเมา
ราวกับมีมนต์สะกดให้บดหน้าเบียดแล้วสูดกลิ่นซ้ำๆ
ปากบางๆ สีฉ่ำนั้นหวานจนกลืนกินเท่าไหร่ก็ไม่เคยอิ่ม ไม่เคยพอ
ดันกายลุกขึ้นนั่งแล้วรูดเสื้อนอนออกจนพ้นตัว และกางเกงนอนของเขาก็ปลิวหลุดจากกายในเวลาสั้นๆ ต่อจากนั้น ผิวเนื้ออุ่นตึงกระชับดึงดูดให้ใช้ฝ่ามือลูบไล้
คลึงไปทั่วพอๆ กับอยากให้ผิวของตัวเองในทุก ๆ ที่เสียดสีกับผิวอุ่นของอีทงเฮ
แก้มแดงก่ำตาฉ่ำวาว กิริยาบิดกายหนีฝ่ามือของเขาน้อย
ๆ ช่างน่ารัก คิมคิบอมเบียดตัวทิ้งน้ำหนักลงเต็มที่ กดคนใต้ร่างให้จมลงกับที่นอน ใช้มือซ้อนดันแผ่นหลังแล้วเบียดตัวเสียดสีไปมาราวกับจะฝังอีทงเฮให้จมหายลงไปในอกเขา
...
ถ้าทำอย่างนั้นได้จริงจะรู้สึกอิ่ม รู้สึกพอหรือเปล่านะ คิมคิบอม
จุกเล็กเนื้ออ่อนเต้นตุบตับอยู่ที่ปลายลิ้นก่อนจะแข็งขืนสู้ หวานล้ำจนดูดกินขบกัดซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้แดงก่ำ ผิวเนื้อแผ่นอกราบก็หวานล้ำไม่ต่างกัน คิมคิบอมกัด ลากฟันซ้ำ ๆ
ราวกับจะกินอีทงเฮให้หมดทั้งตัว
“อื้ออออ”
มือเล็กสอดเข้ามาที่ท้ายทอยแล้วกดพลางแอ่นอกขึ้นหาริมฝีปาก เป็นอาการตอบรับความเสียวซ่านที่เข้าใจได้ง่ายนัก ไซ้ใบหน้าขึ้นไปหาซอกคอขาวกดจูบที่กระเดือกเล็กแหลมแล้วแวะไปเชยชมไฝเม็ดเล็กที่เขารักนักหนาบนลำคอขาวผ่อง ดูดผิวเนื้อติดริมฝีปากขึ้นมาจนอีทงเฮสะท้านและขยุ้มผมของเขาเต็มแรง
“ฮ้า.. คิบอม~”
ขาเรียวหนีบข้างสะโพกเขาแน่นตามอารมณ์หวามไหว กายบางบิดเลี้อยไปมาบนที่นอนนุ่มด้วยความต้องการเริ่มประทุ ส่งสารผ่านแววตาฉ่ำวาว ปากเผยออ้า และดันกายขึ้นเบียดหาอย่างเต็มอกเต็มใจ คิมคิบอมทวงสิ่งที่อีทงเฮติดค้างไว้อย่างช้าๆ
แต่ทว่าเร่าร้อนนักจนเสียงแหบครางไม่หยุด
“ฮะ ฮะ ... อะ อื้อออออออออ”
ความร้อนรุ่มที่บดเบียดกันถูกฝ่ามือกุมรอบ
รูดและปรนเปรอจนกายกระตุกและสะโพกเล็กลอยแอ่น คิมคิบอมเคลื่อนกายเพิ่มพื้นผิวให้เสียดสีอย่างเป็นจังหวะ เหงื่อเม็ดโตไหลจากหน้าผากและหยดเข้าที่หางตา นำพาความแสบร้อนจนต้องดึงมือที่ค้ำฟูกเพื่อพยุงน้ำหนักตัวเองไว้มาปาดหยดเหงื่อแล้วสลัดทิ้งไป
ผิวกายขาวนวลของคนด้านใต้บัดนี้ชื้นเหงื่อ มือน้อยบีบขยุ้มไปตามต้นแขนและไหล่ กำมือเล็กเข้ากับเนื้อแน่นยามที่เขาเร่งจังหวะให้กระชั้นเพื่อนำพาคนตัวเล็กสู่จุดหมาย แผ่นอกบางยกสูงแอ่นจนเงยหงายก่อนจะหลุดเสียงครางยาว และปลดปล่อยบางสิ่งออกมาพร้อมกับอารมณ์ที่พุ่งสูงสุดจนกายบางกระตุกถี่ๆ
“อึก อึก ... อื้อออออ ........”
วงหน้าสวยแดงก่ำแต่ตาเรียวยังปรือมองอยู่ ปากอ้าโกยหอบลมหายใจเข้าปอดจนแผ่นอกยวบยาบ นัยน์ตาสวยลอยวูบก่อนจะหยีทั้งหน้าเมื่อเส้นประสาททั่วร่างขมวดตึง อารมณ์ภายในพุ่งขึ้นสูงจนใบหน้าเรียวส่ายใบหน้าเสียดกับผิวที่นอนแรง
ๆ มือที่กำแขนเขาไว้ขยำจิกปลายนิ้วจนสุดแรงอยู่สักพักแล้วจึงค่อยคลายออก แล้วลูบมือบางไปตามกล้ามเนื้อต้นแขนเขาช้าๆ
“คิบอม…”
เสียงทุ้มหัวเราะในลำคอเพราะภาพแสนสวยตรงหน้า
อีทงเฮที่ไปถึงฝั่งก่อนไม่ได้หลับหูหลับตาปิดหน้าเอียงหนีเหมือนเมื่อครั้งอ่อนวัยกว่านี้ มือเล็ก ๆ ที่เคยกำจิกมือตัวเองยามขวยเขินไม่มีให้เห็น วันนี้อีทงเฮกำลังใช้มือน้อยนั้นลูบไล้ไปมาบนลอนกล้ามของเขาที่แผ่นอกและหน้าท้อง ฟันขาวซี่เล็กถูกขบเข้ากับริมฝีปากล่าง
......อย่างยั่วเย้า ต่อหน้าเขาที่ยังทาบทับและแทรกตัวอยู่ระหว่างขาสองข้างของอีทงเฮ
......อย่างยั่วเย้า ต่อหน้าเขาที่ยังทาบทับและแทรกตัวอยู่ระหว่างขาสองข้างของอีทงเฮ
“ยั่วนัก ระวังจะไม่ได้เปิดร้าน”
“อือออออ ใครยั่ว ไม่มีหรอก”
ปฏิเสธด้วยเสียงแหบแผ่วๆ
แต่แย้มรอยยิ้มบางบนใบหน้าสวย คิบอมหายใจหนัก
พลางใช้มือลูบเม็ดเหงื่อพราวบนหน้าผากได้รูปและหยุดมือไว้ที่แก้มนุ่มเมื่อเจ้าของแก้มเบียดใบหน้าเข้าหาฝ่ามือเขาพร้อมรอยยิ้มมุมปากบางเบาอีทงเฮยิ้มพรายในดวงหน้าพร้อมเสียงแหบหวานเอ่ยบางคำให้ได้ยิน
“ติดไว้เท่าไหร่
อย่าลืมเก็บไปให้หมดนะ”
“หึ โทรศัพท์ทงเฮอยู่ไหน”
“ถามทำไม เวลาอย่างนี้นายถามหาโทรศัพท์เหรอคิบอม”
รูปประโยคเหมือนจะเอาเรื่องแต่น้ำเสียงยังคงหยอกเย้าในที นี่อีทงเฮจะยั่วให้เขาใจขาดให้ได้เลยใช่ไหม
“ถามหาเพราะมันต้องใช้”
“โทรศัพท์?... นายจะใช้ทำอะไร”
“โทรบอกแอลว่าวันนี้ร้านกาแฟจะไม่เปิดทำการ
เพราะเจ้าของร้านเดินไม่ไหว”
“บ้า!!”
เสียงแหวมาพร้อมกำปั้นทุบลงที่แผ่นอก คิมคิบอมคว้ากำปั้นนั้นไว้ด้วยฝ่ามือแล้วยกขึ้นจูบ จนอีทงเฮยิ้มกัดปาก กายหนาแนบลงไปอีกครั้งพร้อมสอดมือเข้าแผ่นหลังแล้วกอดแนบใบหน้าลงไปเร็วๆ เพื่อใช้ไรหนวดที่ริมฝีปากและคางบดลงกับ
ผิวคอและไหล่ของคนช่างยั่วแรงๆ
“โอ๊ะ โอ๊ยย ฮ่า ๆ ไม่เอา ไม่
อ่า อ๊ะ อ๊ะ มันจั้กกะจี๋นะคิบอม โอ๊ย
ไม่เอาอ่า คิก คิก ”
ปากบางที่กำลังหอบอยู่จึงเหยียดเป็นยิ้มหวานส่งให้ ตาเรียววาววับด้วยประกายพึงพอใจ
เหมือนอีทงเฮจะไม่เกรงกลัวถ้อยคำคาดโทษ “เดี๋ยวเถอะ” จากคนตัวโต
x
ฟัดจนหนำใจจนอีทงเฮหอบหายใจตัวโยนแล้วคิมคิบอมจึงค่อยกดจูบที่ แผ่นอกบาง จูบตรงตำแหน่ง
ที่เขารัก และจูบจนเกิดรอยรักทุกครั้งที่ได้แนบชิดกายไว้กับหัวใจดวงเล็กใต้แผ่นอกนี้
ที่เขารัก และจูบจนเกิดรอยรักทุกครั้งที่ได้แนบชิดกายไว้กับหัวใจดวงเล็กใต้แผ่นอกนี้
“ทำรอยอีกแล้วเหรอ”
“อืมม เผื่อใครไม่รู้ว่านี่ของฉัน”
คิมคิบอมตอบอู้อี้เพราะปากร้อน ๆ ง่วนอยู่กับการดูดผิวเนื้อบางจนจ้ำสีแดงเรื่อปรากฏ
คนตัวเล็กขำคิกในลำคอก่อนจะไต่ปลายนิ้วตามผิวเนื้อแน่น
บ่ากว้างเบา ๆ
“แล้วฉันต้องทำบ้างหรือเปล่าล่ะ”
“ตามใจ จะทำรอยเล็บ รอยหยิกก็ตามสบาย หรือจะเป็นรอยฟันเหมือนตอนนั้นฉันก็ชอบนะทงเฮ”
ใบหน้าเรียวยกขึ้นมากดจูบที่แก้มพองเบา
ๆ ก่อนจะเอ่ยกลั้วน้ำเสียงคิกคัก พร้อมรอยยิ้มหวานฉ่ำ
“งั้นฉันไม่ต้องทำก็ได้ ฉันรู้นานแล้วว่าตรงนี้ของใคร”
ปลายนิ้วเล็กจิ้มตรงแผ่นอกหนา
ที่มีหัวใจของบางคนเต้นกระหน่ำ คนช่างยั่วที่ไม่รู้ตัวว่ากำลังล้อเล่นกับเปลวไฟปรารถนาอาจต้องจำวันนี้ไปอีกแสนนานเพราะการกระทำที่ตัวเองก่อไว้ ส่งผลให้นับแต่พระอาทิตย์ดวงกลมเริ่มแตะขอบฟ้าจนเคลื่อนสูงเกือบตรงหัว อีทงเฮไม่มีสิทธิ์แม้หย่อนขาเล็กลงจากเตียง
แค่เพียงได้แทรกกายให้ความอ่อนนุ่มและรุ่มร้อนโอบล้อมเสียงทุ้มก็พร่าสั่น
แขนสองข้างที่ค้ำฟูกไว้เกร็งจนเนื้อกล้ามขึ้นเป็นมัดและตาคมหยี
ภายนอกสว่างมากจนใบหน้าคิมคิบอมลอยเด่นชัด หยดเหงื่อรินตามโครงหน้าคมไหลมาทิ้งตัวตามแรงโน้มถ่วงที่ปลายคาง เส้นผมสีดำสนิทชื้นและไม่เป็นทรง ทว่าคนตรงหน้ายังคงหล่อเหลาและมีเสน่ห์เหลือเกิน
สะโพกลอยสูงเพราะมีหมอนนุ่มรองไว้ด้านใต้
เป็นท่าที่อีทงเฮโคตรจะอายแต่ก็รู้ว่ามันทำให้ทุกอย่าง ‘สะดวก’ มากขึ้น สะดวก
แต่ไม่สบาย อึดอัดจนต้องขยับตัวเองเพื่อให้แข้งขาถูกท่า ฝ่ามือร้อนแนบลงที่เอวแล้วกดคลึงปลายนิ้วเรียกอารมณ์ซ่านจนต้องครางหวิวตอบรับ
รู้ว่าอีกฝ่ายรอเพียงแค่เขาพร้อม ดวงตาสีนิลสื่อถึงแรงปรารถนาที่สาดซัดและรอจะถาโถม
อีทงเฮใช้ศอกค้ำดันตัวเองให้ลุกจากที่นอนพร้อมกับคล้องแขนอีกข้างเข้าที่บ่ากว้างเพื่อเป็นที่เหนี่ยวกาย เห็นดังนั้นคนที่แทรกกายอยู่ตรงกลางจึงดึงหมอนนุ่มออกและขยับเปลี่ยนท่าทางทันที
ยิ่งเปลี่ยน ยิ่งลึก ยิ่งอึดอัด ตาเรียวปรอยมองหน้าคมตรงหน้าด้วยความรักใคร่ คล้องแขนเข้ากับคอหนา แตะปลายนิ้วไปตามโครงหน้าหล่อเหลา จมูกโด่ง ปากอิ่มที่เหยียดเป็นเส้นตรง นิ้วชี้น้อยแตะลากจากปลายจมูกจนถึงขอบดวงตา
ปากบางเจ่อพรมจูบหวานตามทางที่ปลายนิ้วตนลากผ่าน จูบซับความชื้นและความสั่นสะท้าน
เพราะอีกคนยังเก็บกักความต้องการไว้ นัยน์ตาสีดำสนิทที่มองจ้องเป็นราวกับกระจกใส สะท้อนภาพเรียวหน้าของตนที่ยามนี้ฉ่ำด้วยแรงปรารถนา ไม่ต่างกัน
เพราะอีกคนยังเก็บกักความต้องการไว้ นัยน์ตาสีดำสนิทที่มองจ้องเป็นราวกับกระจกใส สะท้อนภาพเรียวหน้าของตนที่ยามนี้ฉ่ำด้วยแรงปรารถนา ไม่ต่างกัน
มือร้อนคู่เดิมโอบไล้ไปทั่วแผ่นหลัง เลื่อนลงต่ำขยำก้อนเนื้อนุ่มช้า ๆ
ก่อนจะประคองสะโพกเล็กที่ทับอยู่ที่กลางลำตัวแน่นกล้ามเนื้อ มือใหญ่ค่อยขยับเริ่มจังหวะให้สะโพกบางเคลื่อนตาม
“อืออ....”
ราวกระแสไฟฟ้าอ่อนบางแล่นปราดไปมาอยู่ลึกในกาย บางเสี้ยวแลบแปล้บจนแปลบซ่านทั่วท้องน้อย ลมร้อนจากจมูกและริมฝีปากของอีกคนเป่ารดที่ใบหูและซอกคอ
กลิ่นผิวถูกสูดดมอย่างไม่รู้จักพอจนสงสัยว่ากายเขาจะยังมีกลิ่นใดหลงเหลือจากนี้
จังหวะเนิบนาบค่อย ๆ
แปรเปลี่ยน
ขยำเนื้อหนักขึ้นเพื่อเร่งจังหวะ
ลึก ร้อน เสียด ถูกดึงความสนใจไปที่ลาดไหล่ที่ถูกเล็มด้วยริมฝีปาก
และแค่เพียงอีทงเฮแอบเปลี่ยนจังหวะนอกเหนือที่ถูกชักพาบ้าง เสียงทุ้มก็แตกพร่าครางกระเส่าชิดใบหู
“อา.... ทงเฮ”
เคยมีใครบอกคิมคิบอมหรือเปล่านะ ว่าเสียงทุ้ม ๆ
ยามแตกพร่า...ช่างเซ็กซี่นัก
ฟันซี่เล็กกัดริมฝีปากล่างของตนด้วยความขลาดเขินแต่พอใจอยู่ลึก ๆ ยิ่งมีชื่อของตนเองผ่านพ้นริมฝีปากอิ่มของคนรัก
อีทงเฮก็ยิ่งอยากได้ยินจนแอบทำซ้ำอยู่บ่อย ๆ
จนกระทั่งฝ่ามือร้อนทาบเข้าแก้มทั้งสองข้างแล้วแนบริมฝีปากลงมาบดจูบร้อนคว้านต้อนดูดกลืนลิ้นจนชา สะโพกเล็กจึงได้หยุดจังหวะและกอดกระชับแขนกับต้นคอหนาก่อนที่จะอ่อนเปลี้ยสิ้นเรี่ยวแรงเพราะรสลิ้นไปมากกว่านี้
ขบติ่งเนื้อนิ่มแล้วจึงค่อยกระซิบเสียงทุ้มใส่ใบหู “จะให้ขาดใจตายเลยหรือไง”
แผ่นหลังบางถูกเอนลงแนบฟูกนุ่มอีกครั้ง
เสียงแหบครางแล้วหยุดแล้วครางซ้ำวนไปมาหลายต่อหลายรอบ น้ำเสียงที่ลอยล่องปะปนเสียงลมทะเลบอกถึงอารมณ์สุขสมและทรมานเหลือแสน กายเล็กบอบบางโยกไหว สั่นคลอน ผมนุ่มสีน้ำตาลเข้มแผ่กระจายบนที่นอน
เสียงดูดดึงผิวเนื้อแทรกเสียงครางฟังดูหยาบโลนทะลึ่งนักแต่สร้างความสุขล้ำเช่นกัน
เสียงทุ้มครางต่ำในลำคอยามที่อารมณ์ร้อนในกายพุ่งขึ้นสูงสุด
น้ำหนักตัวที่มีโถมซัดใส่อีกฝ่ายไม่มีผ่อนแรงเมื่อร่างเล็กปรับตัวจนลื่นไหลได้ตามกลไกธรรมชาติ
หยาดเหงื่อผุดเป็นเม็ดเกาะชื้นจนทั่วตามผิว จมูกโด่งสูดกลิ่นอายแห่งความปรารถนาที่แผ่ออกจากกายขาวนวล กลิ่นความหวานอบอวลบนเตียงให้ดำดิ่งลึกลงในวังวน จนแทบไม่เหลือสติให้คำนึงถึงสิ่งอื่นใด
นานเท่าที่แรงกายยังเหลือ นานเท่าที่คนรักยังไหว นานเท่าที่เจ้าตัวพอใจ ตักตวงความอิ่มเอมในเพศรส ชดเชยความคิดถึงที่ทรมานมาหลายค่ำคืน
และนานเท่าที่กายเล็กหอมหวานยังยื่นเสนอให้ด้วยอ้อมกอดเล็ก
ๆ แต่แสนอ่อนโยนของอีทงเฮ