I'm by your side~ ใกล้ๆ คุณ 3
ความคิดถึงมันห้ามไม่ไหว
อีกครั้งที่ขาเล็กๆ
ของอีทงเฮทำงานได้ไวเหลือเชื่อ
ขาเล็กๆ นี้เคยยกถีบประตูรถที่หน้าสวนสาธารณะจนหนีบมือคิมคิบอมบาดเจ็บ
เคยวิ่งหนีไปที่หน้าอาคารคณะบริหารธุรกิจเพราะอายเกินกว่าจะสู้หน้าหลังจากบอกให้คิบอมรอเพราะยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนเพียงพอ และครั้งนี้พากายบางมาแหวกผ้าม่านหน้าต่างห้องของตนในแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น
แค่ตาเรียวขอบแดงก่ำมองเห็นรถยนต์คันสีดำจอดอยู่ตรงลานหน้าบ้าน
และเห็นว่ามีใครบางคนยืนพิงตัวรถพร้อมกับมืออีกข้างถือโทรศัพท์ไว้แนบหู
แค่อึดใจสั้นๆ จากนั้น คนตัวเล็กก็พุ่งชนแผ่นอกกว้างอย่างแรงจนแผ่นหลังหนากระแทกตัวรถและโทรศัพท์สีดำหลุดจากมือไปหงายท้องอยู่ตรงพื้นใกล้ๆ....
โดยไม่ได้รับความสนใจจากเจ้าของโทรศัพท์ที่ใช้ทั้งอ้อมแขนและทั้งตัว กอดรัดกายเล็กไว้จนแทบจมลงไปในแผ่นอก
เงียบเชียบนักในเวลาค่อนรุ่ง ขัดกับความร้อนรุ่มที่ปะทุอยู่กลางอก แค่เพียงกลอนประตูห้องนอนถูกเลื่อนล็อก อีทงเฮก็ถูกดันเข้าไปติดกำแพงห้องใกล้ประตูพร้อมกับพายุจูบที่โหมกระหน่ำ
“อื้ออออ”
เสียงแหบครางประท้วงความดุดันแต่แขนขาวกลับคล้องเกี่ยวเหนี่ยวคอหนาลงมาชิดเพื่อให้ปากอุ่นร้อนแนบกับริมฝีปากบางได้อย่างลึกซึ้ง ใบหน้าเรียวเอียงบิดตามองศาอย่างว่าง่าย
เสียงลมหายใจปะปนจนแยกไม่ออก เรียวลิ้นต่างตวัดดูดกลืนกันจนแทบพันเป็นเนื้อเดียว
หลายนาทีนักที่ต่างคนต่างระบายความรู้สึกผ่านริมฝีปากจนยามนี้ปากบางบวมเจ่อและสีก่ำ อีทงเฮยืนพิงผนังเผยอปากบางหอบกลืนอากาศ แผ่นอกหนาที่คร่อมทับก็กระเพื่อมหนักเพราะแรงหายใจ
แขนเล็กที่ยังคล้องต้นคอหนาไว้ไล้ปลายนิ้วตามไรผมสีดำสนิทที่ท้ายทอย ตาเรียวฉ่ำปรอยมองริมฝีปากอิ่มที่กำลังกอบโกยอากาศเช่นกัน
“อืมมมม”
เลื่อนแขนหนึ่งลงมาสอดเข้าใต้รักแร้ของคนตัวโตกว่า
โอบกอดแผ่นหลังกว้างที่เบียดเข้ามาชิดจนแทบไม่เหลือช่องให้ลมผ่าน
มือขาวลูบขึ้นลงสลับกับขยำเสื้อยืดเนื้อนุ่มที่อีกคนสวมใส่
มืออีกข้างจิกที่ไหล่กว้างสลับกับกดคลึงท้ายทอยหนายามที่ปากร้อนซุกไซ้ทั่วใบหู
คิมคิบอมลากริมฝีปากชิม
ปล่อยลมหายใจรดไปจนทั่ว ไม่เว้นแม้แต่ปลายคางเล็ก
และแอ่งชีพจรที่เต้นตุบตับตรงฐานคอขาว
“อื้ออออออ”
ฝ่ามือใหญ่และร้อนเคล้าคลึงไปทั่วร่าง
และสัมผัสนอกเนื้อผ้าคงไม่หนำใจนักจึงได้สอดมือผ่านชายเสื้อนอนตัวย้วย
และเมื่อได้สัมผัสกับผิวเนียนลื่นที่ปรารถนา เสียงทุ้มก็ครางฮึ่มในลำคอด้วยความพอใจ
“อืมมม .. ทงเฮ”
มือใหญ่บีบคลึงเนื้อบั้นเอวแล้วลากเลยไปจนถึงสะโพกนุ่ม
ใบหน้าคมโน้มตัวลงเชยชิมผิวหอมของลำคอขาวและลาดไหล่
ใบหน้าเรียวเอียงเปิดทางพร้อมครางสั่น เกลี่ยไล้ผิวลากนิ้วยาว กดคลึงปลายนิ้วตั้งแต่สะโพกไปจนถึงต้นขา
ก่อนที่จะยกต้นขาเรียวเกี่ยวเข้ากับต้นขาแข็ง ๆ ที่แทรกเข้ามาแล้วบีบเนื้อต้นขาตึงกระชับอย่างหนักตามห้วงอารมณ์
เสื้อยืดย้วยตัวเก่งหลุดพ้นศีรษะเล็กโดยแทบไม่รู้ตัว
ปากอิ่มกดจูบไปตามไหล่และแผ่นอกบางที่แอ่นรับด้วยความซ่าน
จุ๊บ จุ๊บ
“ฮื่ออออ...”
เอวบางถูกเกี่ยวเข้าหาแล้วกดแนบแผ่นท้องแบนราบกับแผ่นท้องแข็ง
ๆ เสียงลมหายใจหนักที่ลอดผ่านปลายจมูกโด่งที่สูดดมเนื้อเนียนดังชัดชัดท่ามกลางความเงียบค่อนรุ่งในห้องนอน
“อื้อออ ค... คิบอม”
ฟันซี่เล็กขบปากล่างแน่นก่อนจะเปลี่ยนเป็นขบลงบนเนื้อต้นคอชื้นเหงื่อก่อนที่ศีรษะที่ปกคลุมด้วยเส้นผมสีดำสนิทจะเริ่มเคลื่อนลงต่ำ ปลายลิ้นร้อนแตะชิมผิวเนื้ออกบาง บ้างดูดกลืนราวกับกระหายหนัก
ทั้งยังบีบคลึงบั้นเอว เกี่ยวกอดเอวเล็กให้แอ่นแนบไม่ยอมปล่อย
นิ้วเล็กขยำแล้วจิกปลายนิ้วสุดแรงเมื่อปุ่มเนื้อนุ่มถูกรุกราน เสียงแหบหวานครางพร่าเมื่อไม่สามารถควบคุมตัวเองได้จนต้องแอ่นอกขึ้นเบียดหา
ต้นขาแข็งที่แทรกกลาง ขยับและเสียดผิวกางเกงยีนส์เข้ากับกางเกงนอนเนื้อนุ่มจนสะโพกเล็กกระเด้งถอยแต่ถูกกดเข้าไปจนแนบสนิทอีกครั้ง
และต้องขยับไปพร้อม ๆ กัน ปากบางครางลั่น จิกเนื้อแข็งจนมือแทบชา
“อือออ .. คิบอม อะ
อื้อออ”
ใบหน้าคมละจากแผ่นอกบางขึ้นมามอบจูบหวานล้ำ เรียวลิ้นเล็กกระหวัดตอบรับอย่างเผ็ดร้อนเมื่อพบว่าช่วยลดความเสียวซ่านจากส่วนล่างได้ ยิ่งจูบก็ยิ่งต้องการ
นิ้วมือยาวที่ขยำเนื้อนุ่มก็ยิ่งจับสะโพกเล็กนำจังหวะให้เคลื่อนไหว จวบจนแผ่นอกบางไม่สามารถเก็บกักลมหายใจได้
หน้าเรียวใสทว่าแก้มแดงก่ำจึงเอียงหนีจูบร้อนหวานล้ำเสียเอง
“อืมมม .. ทงเฮ”
มือร้อนย้ายจากสะโพกนิ่มมาประคองแก้มชื้นด้วยเหงื่อที่ซึมไหลจากไรผม
แก้มใสเบียดเข้ากับฝ่ามือหนาก่อนจะค่อยช้อนตาฉ่ำวาวสบสู้ ตาคมหรี่ลงมองปากบางแดงก่ำด้วยแรงปรารถนา ไล้ผิวแก้มเนียนด้วยปลายนิ้วหัวแม่มือช้า
ๆ ก่อนที่เสียงทุ้มจะเอ่ยเรียกคนที่สะท้อนอยู่ในดวงตาของตน
“ทงเฮ... ทงเฮ”
ตาเรียวสวยทนรับแรงปรารถนาที่ส่งมาอย่างไม่ปิดบังไม่ไหวจนต้องหลุบตามองต่ำ
มือเล็กที่ยังจับยังขยุ้มไหล่กว้างก็พาลสั่น กัดริมฝีปากขบกดความเขินอายไว้ให้ลึก แต่พลันที่เคลื่อนสายตาจากดวงตาสีดำสนิทมาเป็นแผงอกแน่นเนื้อ
อีทงเฮก็แทบอยากปิดตาตัวเองแล้วมุดหน้าลงที่ซอกคอชื้นเหงื่อแทน
“ฮื่อออออ คิบอม”
ปากร้อนกรุ่นกลิ่นแอลกอฮอล์จางกดจูบหนัก
ๆ ที่ขมับเล็ก
จมูกโด่งคมกดสูดดมกลิ่นเนื้อแก้มจนเกิดเสียงชัด ปากอิ่มลากแตะจูบไปจนทั่วใบหน้านวลกระจ่าง นิ้วมือยาวที่ประคองตรงสะโพกนิ่งๆ
มาหลายนาทีนั้น กลับค่อยสอดปลายนิ้วผ่านขอบกางเกงนอนแล้วถอดผ้านุ่มลงไปกองที่พื้นอย่างง่ายดาย
“ทงเฮ~…”
เวลาอย่างนี้
ไม่ต้องเรียกชื่อเขา..จะได้หรือเปล่า?
แค่ต้องยืนให้ตัวใหญ่ ๆ เบียดหลังติดกำแพงทั้งที่ไฟหัวเตียงยังเปิดจ้า
ก็แทบจะเขินตายอยู่แล้ว
เสียงทุ้มแตกพร่าของคิมคิบอมที่ไม่ได้ยินมานาน
ดังก้องทั่วห้องนอนเงียบ ๆ สะท้อนเข้าในหูจนขนอ่อนที่ท้ายทอยลุกเกรียวด้วยเสียววาบในช่องอก ยิ่งลากริมฝีปากแต้มแตะไปตรงจุดใด ก็ยิ่งคล้ายมีกระแสไฟช็อตจนเนื้อกระตุกเกร็ง
“ฮืออออ.....”
รู้ตัวว่าครางเครืออย่างน่าอายแต่มันทนไม่ไหว ยิ่งอีกคนสัมผัสผิวเขามากเท่าไหร่ เรียกชื่อเขามากเท่าใด ก็คล้ายมีบางอย่างกระพือพรึ่บพรั่บอยู่ในช่องท้อง หัวเริ่มหมุน แข้งขาอ่อนแรง
จนต้องทิ้งน้ำหนักพิงไปที่ผนัง
แต่กระนั้นก็ยังพยายามทรงตัวไม่ให้รูดไหลลงไปกองที่พื้นด้วยขาเพียงหนึ่งข้าง..
แต่มันช่างยากเย็นเหลือเกิน
มือร้อนๆ
ของคิมคิบอมยังบีบคลึงอยู่ที่ก้นและต้นขา
อีทงเฮเชิดหน้าพิงศีรษะเข้ากับผนัง
เสียงครางหลุดผ่านริมฝีปากเป็นระยะตามจังหวะที่อีกคนดูดดึงผิวเนื้อเคลื่อนลงต่ำ ก่อนที่จะเผลอร้องเสียงสั่นจนต้องรีบเม้มปากไว้แน่นเมื่อความอุ่นร้อนเข้าครอบคลุมที่บางส่วนของร่างกาย
“อื้ออออออออออออออออ
อะ... ยะ .. อย่าเพิ่ง คิบอม”
ขยุ้มท้ายทอยอีกคนอย่างแรงโดยไม่รู้ตัวเมื่อความร้อนชื้นเข้าครอบครอง
ราวกับประสาทสัมผัสทั่วร่างวิ่งไปรวมกันที่ท้องน้อย เกลียวเชือกเส้นใหญ่ในกายขมวด ขึง และบิดเกร็ง กายบอบบางเอี้ยวแผ่นหลัง แอ่นสะโพก จิกเท้ากับพื้นแข็งจนเจ็บร้าวแต่กระนั้นความเสียวซ่านก็ไม่ลดลงแม้สักนิด
เสียงเนื้อสัมผัสหยาบโลนดังเป็นจังหวะพร้อมกับมือใหญ่ประคองสะโพกเล็กแล้วชักพาให้ขยับ และยิ่งเพิ่มความหนักหน่วงสะโพกเล็กพยายามรั้งและบิดหนี
ใบหน้าคมกดแนบจนแทบสนิท
เสียงครางต่ำจากเบื้องล่างสลับกับมืออีกข้างที่รูดรั้ง ปรนเปรอ
“ดะ..เดี๋ยว.. ปล่อย คิ คิบอม.. ปล่อย”
อะไรบางอย่างวิ่งพล่านตามเส้นประสาท
กระแสร้อนแล่นเป็นริ้วจากปลายนิ้ว ปลายผม
เลื่อนลงต่ำ แผ่นอก แผ่นท้อง แผ่นหลัง
และไหล่ลาด บิดเกร็ง เริ่มสั่นสะท้าน
แขนทั้งสองข้างดันไหล่กว้างจนกล้ามน้อย ๆ ขึ้นเป็นลูกเล็กบนต้นแขนขาว
ลึกล้ำ
เรียกร้อง ให้ดำดิ่ง หมุนคว้าง จุกแน่น จนไม่อาจมองเห็น หรือรู้สึกถึงสิ่งใด
นอกจากบางอย่างที่เรียกร้อง ต้องการให้เร่งขยับกายตามจังหวะที่ถูกชักพา ความรู้สึกเดิมที่เคยรู้จัก สัมผัสเดิมที่เคยคุ้น เส้นทางเดิมที่เคยไปถึง.. อยู่ใกล้แค่เอื้อมมือคว้า
และปลายอุโมงค์ตรงหน้า ส่งให้กายน้อยกระตุกระริก
ขาวโพลนวาบอาบทั่วร่าง ก่อนจะทิ้งกายรูดกองตามแรงโน้มถ่วง พิงผนังแล้วกระตุกถี่ที่พื้นโดยที่ฝ่ามือร้อนของอีกคนยังประคองนาทีแห่งความสุขให้ยิ่งดื่มด่ำและยืดยาวออกไป
ผิวขาวนวลเนียนต้องแสงโคมกระจ่างตา หน้าเนียนใสวาวเหงื่อพราวระยับ
ตาสีน้ำตาลเข้มสวยนักแต่กลับหยีปิดเพราะอารมณ์ที่เพิ่งปะทุและยังไม่สิ้นสุด ปากบางเม้นแน่นจนเหยียดเป็นเส้นตรงและซีดขาวเมื่อเจ้าตัวกักเสียงครางของตนเก็บไว้
แต่เขายังคงได้ยินมันชัดเจน
ร่างน้อยอ่อนนุ่มสิ้นเรี่ยวแรงอย่างที่เคยเป็นเสมอยามเดินทางถึงฝั่ง ทิ้งน้ำหนักนั่งเอนหลังเอียงใบหน้าหนี ตามจูบแตะช้า ๆ ที่ขมับโชยกลิ่นแชมพูสระผม
และแก้มหอมเนื้อผิวกรุ่นกลิ่นจางของดอกไม้เล็กๆ ในครีมอาบน้ำที่เจ้าตัวชอบใช้ แขนเล็ก ๆ ที่เคยคล้องคอเหนี่ยวเขาเอาไว้ทิ้งดิ่งข้างกายอย่างไร้ซึ่งท่าทาง
“ทงเฮ....”
เขาเรียก....
เพราะอยากให้ตาเรียวสวย ‘ของเขา’ เปิดขึ้นมาสบตา แต่เจ้าของชื่อยังควบคุมระลอกคลื่นปั่นป่วนในอกตัวเองไม่ได้จึงยิ่งเอียงหน้าหนี กดจมูกและริมฝีปากกับซอกคอขาว
สูดดมกลิ่นหอมหวานลึกเข้าในปอดก่อนจะผละออกมามองแก้มใสขึ้นสี
คิมคิบอมใช้ปลายนิ้วเช็ดหยดน้ำใสที่ปลายหางตาเบา ๆ
ก่อนจะผละกายของเขาออกมาเพื่อปลดเปลื้องทุกสิ่งที่กั้นขวางผิวของเขากับผิวเนียนของอีทงเฮ
รวบช้อนกายเล็กที่ยังอ่อนแรงขึ้นมาบนตัก อีทงเฮยกมือขึ้นมาขวางในจังหวะที่เขากดแผ่นหลังบางเพื่อให้แนบเข้ากับแผ่นอกเขา
ในทีแรกไม่ได้ใส่ใจอาการขืนกายเพราะบ่อยครั้งที่อีทงเฮมีปฏิกิริยาโต้ตอบคล้ายขัดขืนแต่แท้จริงเป็นเพียงอาการเขินอายไม่กล้าของเจ้าตัวเท่านั้น มือหนึ่งข้างจึงยังดึงดันและอีกข้างก็กดสะโพกนุ่มจนหน้าท้องเบียดชิด
“ดะ เดี๋ยว คิบอม ... ”
เสียงแหบหวานสั่นจนแทบฟังไม่เป็นถ้อยคำ คิมคิบอมแนบใบหูเข้ากับริมฝีปากบางเพื่อฟังให้ชัดพลางลากมือสัมผัสรูปร่างและผิวที่แสนรักใคร่ มือเล็กของอีทงฮยังเพียรดันไหล่ ดันแผ่นอก
แต่เขาแทบไม่ได้ใส่ใจ เพราะยามนี้
กลิ่นกาย ผิวเนื้อ กลิ่นเหงื่อ
ของอีทงเฮกำลังทำให้เขาทรมาน
แทรกมือลงตรงกลางหน้าท้องแบนราบและแผ่นท้องที่เป็นลูกลอนของเขา ริมฝีปากบางๆ
กดแนบลงมาที่ต้นคอเขาทันทีพร้อมกับ..ขบกัด
เสียงแหบครางหวิวในลำคอแต่เพราะแนบชิดเขาจึงได้ยินชัด “เดี๋ยว” ที่ปากบางเอ่ยอย่างสั่นระริกชิดผิวคอเขาก็ได้ยิน
“เดี๋ยวไม่ได้แล้ว.. ทงเฮ~”
“อื้ออออ ฟัง ...ฟังก่อน”
สะโพกบางเริ่มโยกไหวอีกครั้งเพราะถูกชักพา มือเล็กๆ ที่ยังดัน กั้นขวางแผ่นอกเขาและแผ่นเนื้อเนียนเปลี่ยนเป็นหยิกขยำ ยิ่งดันเขาก็ยิ่งเบียดเข้าหาเพราะรู้ดีว่าอีกคนไม่อาจสู้แรงได้และเต็มใจ ยิ่งถูกขบฟันลงแรงเท่าไหร่
เขาก็ยิ่งรูดรั้งปรนเปรอ
“อึก.. ฮืออ ...คิบอม เดี๋ยว เดี๋ยว..”
“หือ?”
ขานรับทั้งที่กำลังเล็มชิมไปทั่วใบหูและซอกคอหอม กายบางสั่น เสียงพร่า
และพยายามใช้มืออ่อนแรงยื้อยุดจังหวะที่ข้อมือของเขา อีทงเฮดันกายออกห่างมากพอจนสามารถสบตา และเผยใบหน้าฉาบด้วยแรงปรารถนาและความกระดากอายชัด
กระนั้นแล้วตาสีน้ำตาลสวยยังพยามยามจ้องลึกเข้ามาในดวงตาของเขาพร้อมเอ่ยช้าๆ
อย่างที่ฟังรู้ว่าต้องควบคุมเสียงของตนเองมากแค่ไหน
“คิบอม.. ตรงนี้ไม่ได้”
“หืม?.. ว่าไงนะ? ตรงนี้ทำไม?”
ได้ฟังชัดแล้วจึงตั้งสติกวาดตามอง ทั้งเขาและอีทงเฮยังตระกองกอดและนั่งตักกันชิดกำแพงห่างจากประตูห้องไม่ถึงสองเมตรด้วยซ้ำ ตาคมกวาดมองตั้งแต่ประตูที่ลงล็อก กองเสื้อผ้าระเกะระกะ และเตียงนุ่มที่ตั้งเด่นอยู่ไม่ไกล เสียงแหบหวานกระซิบเบาและชิดจนริมฝีปากสั่นๆ แตะใบหูของเขา
“ประตูห้องนอนฉัน...
มันไม่เก็บเสียง..คิบอม”
ผิวกระเบื้องเย็นเฉียบของห้องน้ำ
ทำให้สองกายร้อนรุ่มต้องกอดรัดแน่นกว่าที่เคย
ห้องน้ำเล็กมีเพียงช่องระบายอากาศด้านหลังทำให้เสียงครางกระเส่าก้องทั่ว เสียงดูดดึง เสียงกระทบเนื้อ และเสียงกระเส่า กลบกลืนทุกสติสัมปชัญญะ แขนยาวกอดรัดกายเล็กแนบชิดและแขนขาวก็เพียรกอดรัดเบียดร่างเข้าหาเช่นกัน
มือเล็กทั้งสองข้างดันกำแพงไว้เพื่อพยุงกายที่โยกไหว ยามที่เรี่ยวแรงอ่อนแก้มร้อนก็แนบเข้ากับผนัง
แรงขยับจากกายหนาที่ซ้อนหลังนอกจากไม่มีทีท่าจะผ่อนเบาแล้วยังเพิ่มจังหวะขยับให้เร็วเข้าเช่นเดียวกับก้อนอารมณ์ที่ตีรื้น
“ทงเฮ....”
มือใหญ่ปัดป่ายไล้ลูบแผ่นอก กดคลึงหยอกเย้าติ่งเนื้อน้อยที่แต่งตึงสู้นิ้ว
อุ้งมือร้อนอีกข้างเฝ้าปรนเปรอ ประคับประคอง มอบความสุขไปพร้อม ๆ
กับจังหวะเคลื่อนกายที่สอดคล้องสนองตอบ
ปากอิ่มกดจูบ ดูดดึงเนื้ออ่อนเป็นรอยเล็กทั่วลาดไหล่
สะบักหลัง
เบาแรงเหลือเพียงสูดดมและแตะชิมผิวคอขาวเท่านั้นเพราะรู้ดีกว่าคงไม่เหมาะหากจะปล่อยรอยรักสู่สายตาผู้ใหญ่ เสียงแหบที่ครางเครือเร่งเร้าให้อารมณ์ของคิมคิบอมโหมกระพือ
“ฮื่อ..”
มือน้อยพยายามยืดมาดันแผ่นท้องแข็งๆ
เพื่อส่งสัญญาณบอกให้ผ่อนแรงและซับแรงเอาไว้ แต่ก็ได้แค่ช่วงเวลาสั้น ๆ
เพราะไม่ถนัดจึงเปลี่ยนไปจับนิ้วมือที่กำลังบิดติ่งเนื้อไว้แน่น เสียงทุ้มกระซิบชิดใบหู แหบพร่า
จนต้องเบี่ยงหน้าหลบลมร้อนแต่ปากอิ่มยังตามขบเม้ม
“อืม...เจ็บเหรอ”
“อืออออ..”
ได้แต่ครางในลำคอตอบ.. ได้เพียงเท่านั้น เพราะในยามนี้คนตัวบางยอมให้คนที่ซ้อนหลังอยู่นำพาทุกสิ่ง
ไม่ว่าจะเป็นร่างกายและสติสัมปชัญญะ..ด้วยความเต็มใจ
“อ๊ะ อื้ออออ”
กายหนาผละออกเพื่อพลิกกายบอบบางให้หันหน้ามาหา หน้าเรียวสวยของอีทงเฮแดงก่ำด้วยพิษของอารมณ์ปรารถนาและผิวกระเบื้องเย็นเฉียบ นิ้วมือยาวแตะแต้มผิวแก้มแดงเป็นปื้นก่อนจะกดจูบปลอบประโลม
“ขอโทษนะ หน้าเป็นรอยเลย”
“อืออออ”
ตาเรียวๆ วาวเคลือบน้ำฉ่ำ
หยดน้ำใสต้องแสงไฟจากเพดานวิบวับที่ปลายหางตา
ริมฝีปากบางเผยอน้อยเชิดหน้าและได้รับจูบหวานล้ำปลอบใจ ลิ้นอุ่นตามติดเกี่ยวกระหวัดในโพรงปากร้อน ดูดปลายเล็กที่ระริกตอบรับอย่างโหยหา
กวาดต้อนทุกความรู้สึกจากโพรงปากเล็กเข้าหาตัว
ปลายลิ้นน้อยขึ้นสีก่ำตามเล็มแลบปากอิ่มราวกับยังไม่เพียงพอ
หย่อนตัวนั่งที่โถแล้วยกขาเรียวขาวคร่อมทับตัก รวบเอวบางกระชับเข้าชิด แขนขาวคล้องเกี่ยวเข้ากับไหล่กว้างอย่างรู้งาน ปากบางแตะแต้มมอบจุมพิตที่จมูกโด่ง แก้มพอง และริมฝีปากอิ่มด้วยรักและใคร่อย่างเผลอตัว
ปลายนิ้วน้อยแทรกเข้าตามเรือนผมนุ่มสีดำสนิท
เสยเปิดใบหน้าหล่อเหลาให้เด่นชัดก่อนจะแต้มจูบซับหยดเหงื่อพราวที่หน้าผาก ตาคู่คมหลับตาพริ้มรับสัมผัสนุ่มละมุนจากคนรักก่อนจะเปิดปรือดวงตาเพื่อส่งภาษาผ่านแววตาเช่นกัน
ปากบางกัดปากตัวเองเล็ก ๆ ยามได้สายตาร้อนรุ่มแรงรัก ปากอิ่มยิ้มละมุนรับความกระดากอายแสนน่ารักก่อนแต้มจูบผะผ่าวเพียงแตะชิมผิวปากนุ่มเท่านั้น เสียงแหบต่ำสลับแหบหวานหัวเราะคลอเคล้าหยอกเย้า
มือร้อนลูบเลื่อนลงต่ำ กระชับสะโพกนุ่มให้แนบชิดเพื่อเริ่มบอกรักผ่านภาษากาย.....อีกครา
ในห้วงของความคิดถึงและเปลี่ยวเหงา เต็มไปด้วยความเหน็บหนาว โหยหา ซอกหลืบดำมืดที่เกิดจากระยะทางที่ห่างไกลกระจัดกระจายเพิ่มจำนวนตามคืนวัน
ยิ่งนาน ยิ่งคิดถึง และยิ่งต้องการกันและกัน ต่างมอบภาษากายเพื่อเติมเต็มช้าๆ บอกย้ำด้วยผิวเนื้ออุ่นที่สัมผัส กายที่ก่ายกอด
เสียงกระซิบที่แสนหวาน
และชื่อของคนรักที่เอ่ยออกมาจากใจ
“ทงเฮ... คิดถึง ... คิดถึง”
“อะ อะ... อื้อออ คิบอม~”
ยิ่งเอ่ย ราวกับยิ่งย้ำให้รู้ว่า คนตรงหน้าที่แนบกายถ่ายเทอุณหภูมิอุ่นสู่กันและกัน
คือความจริง ใช่ความฝันอย่างที่เคยผ่านในทุกค่ำคืนที่ผ่านมา