วันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2556

IBYS 3_6 ความคิดถึงมันห้ามไม่ไหว


I'm by your side~ ใกล้ๆ คุณ 3  
ความคิดถึงมันห้ามไม่ไหว




อีกครั้งที่ขาเล็กๆ ของอีทงเฮทำงานได้ไวเหลือเชื่อ

ขาเล็กๆ นี้เคยยกถีบประตูรถที่หน้าสวนสาธารณะจนหนีบมือคิมคิบอมบาดเจ็บ  เคยวิ่งหนีไปที่หน้าอาคารคณะบริหารธุรกิเพราะอายเกินกว่าจะสู้หน้าหลังจากบอกให้คิบอมรอเพราะยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนเพียงพอ  และครั้งนี้พากายบางมาแหวกผ้าม่านหน้าต่างห้องของตนในแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น

แค่ตาเรียวขอบแดงก่ำมองเห็นรถยนต์คันสีดำจอดอยู่ตรงลานหน้าบ้าน และเห็นว่ามีใครบางคนยืนพิงตัวรถพร้อมกับมืออีกข้างถือโทรศัพท์ไว้แนบหู 

แค่อึดใจสั้นๆ จากนั้น คนตัวเล็กก็พุ่งชนแผ่นอกกว้างอย่างแรงจนแผ่นหลังหนากระแทกตัวรถและโทรศัพท์สีดำหลุดจากมือไปหงายท้องอยู่ตรงพื้นใกล้ๆ.... โดยไม่ได้รับความสนใจจากเจ้าของโทรศัพท์ที่ใช้ทั้งอ้อมแขนและทั้งตัว กอดรัดกายเล็กไว้จนแทบจมลงไปในแผ่นอก




เงียบเชียบนักในเวลาค่อนรุ่ง  ขัดกับความร้อนรุ่มที่ปะทุอยู่กลางอก  แค่เพียงกลอนประตูห้องนอนถูกเลื่อนล็อก อีทงเฮก็ถูกดันเข้าไปติดกำแพงห้องใกล้ประตูพร้อมกับพายุจูบที่โหมกระหน่ำ

“อื้ออออ”

เสียงแหบครางประท้วงความดุดันแต่แขนขาวกลับคล้องเกี่ยวเหนี่ยวคอหนาลงมาชิดเพื่อให้ปากอุ่นร้อนแนบกับริมฝีปากบางได้อย่างลึกซึ้ง  ใบหน้าเรียวเอียงบิดตามองศาอย่างว่าง่าย เสียงลมหายใจปะปนจนแยกไม่ออก เรียวลิ้นต่างตวัดดูดกลืนกันจนแทบพันเป็นเนื้อเดียว

หลายนาทีนักที่ต่างคนต่างระบายความรู้สึกผ่านริมฝีปากจนยามนี้ปากบางบวมเจ่อและสีก่ำ  อีทงเฮยืนพิงผนังเผยอปากบางหอบกลืนอากาศ  แผ่นอกหนาที่คร่อมทับก็กระเพื่อมหนักเพราะแรงหายใจ  แขนเล็กที่ยังคล้องต้นคอหนาไว้ไล้ปลายนิ้วตามไรผมสีดำสนิทที่ท้ายทอย  ตาเรียวฉ่ำปรอยมองริมฝีปากอิ่มที่กำลังกอบโกยอากาศเช่นกัน

“อืมมมม”

เลื่อนแขนหนึ่งลงมาสอดเข้าใต้รักแร้ของคนตัวโตกว่า โอบกอดแผ่นหลังกว้างที่เบียดเข้ามาชิดจนแทบไม่เหลือช่องให้ลมผ่าน มือขาวลูบขึ้นลงสลับกับขยำเสื้อยืดเนื้อนุ่มที่อีกคนสวมใส่ มืออีกข้างจิกที่ไหล่กว้างสลับกับกดคลึงท้ายทอยหนายามที่ปากร้อนซุกไซ้ทั่วใบหู  

คิมคิบอมลากริมฝีปากชิม ปล่อยลมหายใจรดไปจนทั่ว  ไม่เว้นแม้แต่ปลายคางเล็ก  และแอ่งชีพจรที่เต้นตุบตับตรงฐานคอขาว

“อื้ออออออ”

ฝ่ามือใหญ่และร้อนเคล้าคลึงไปทั่วร่าง  และสัมผัสนอกเนื้อผ้าคงไม่หนำใจนักจึงได้สอดมือผ่านชายเสื้อนอนตัวย้วย และเมื่อได้สัมผัสกับผิวเนียนลื่นที่ปรารถนา  เสียงทุ้มก็ครางฮึ่มในลำคอด้วยความพอใจ  

“อืมมม .. ทงเฮ”

มือใหญ่บีบคลึงเนื้อบั้นเอวแล้วลากเลยไปจนถึงสะโพกนุ่ม  ใบหน้าคมโน้มตัวลงเชยชิมผิวหอมของลำคอขาวและลาดไหล่  ใบหน้าเรียวเอียงเปิดทางพร้อมครางสั่น  เกลี่ยไล้ผิวลากนิ้วยาว กดคลึงปลายนิ้วตั้งแต่สะโพกไปจนถึงต้นขา ก่อนที่จะยกต้นขาเรียวเกี่ยวเข้ากับต้นขาแข็ง ๆ ที่แทรกเข้ามาแล้วบีบเนื้อต้นขาตึงกระชับอย่างหนักตามห้วงอารมณ์

เสื้อยืดย้วยตัวเก่งหลุดพ้นศีรษะเล็กโดยแทบไม่รู้ตัว  ปากอิ่มกดจูบไปตามไหล่และแผ่นอกบางที่แอ่นรับด้วยความซ่าน

จุ๊บ จุ๊บ

“ฮื่ออออ...” 

เอวบางถูกเกี่ยวเข้าหาแล้วกดแนบแผ่นท้องแบนราบกับแผ่นท้องแข็ง ๆ  เสียงลมหายใจหนักที่ลอดผ่านปลายจมูกโด่งที่สูดดมเนื้อเนียนดังชัดชัดท่ามกลางความเงียบค่อนรุ่งในห้องนอน

“อื้อออ  ค... คิบอม” 

ฟันซี่เล็กขบปากล่างแน่นก่อนจะเปลี่ยนเป็นขบลงบนเนื้อต้นคอชื้นเหงื่อก่อนที่ศีรษะที่ปกคลุมด้วยเส้นผมสีดำสนิทจะเริ่มเคลื่อนลงต่ำ  ปลายลิ้นร้อนแตะชิมผิวเนื้ออกบาง บ้างดูดกลืนราวกับกระหายหนัก  ทั้งยังบีบคลึงบั้นเอว เกี่ยวกอดเอวเล็กให้แอ่นแนบไม่ยอมปล่อย

นิ้วเล็กขยำแล้วจิกปลายนิ้วสุดแรงเมื่อปุ่มเนื้อนุ่มถูกรุกราน  เสียงแหบหวานครางพร่าเมื่อไม่สามารถควบคุมตัวเองได้จนต้องแอ่นอกขึ้นเบียดหา  ต้นขาแข็งที่แทรกกลาง  ขยับและเสียดผิวกางเกงยีนส์เข้ากับกางเกงนอนเนื้อนุ่มจนสะโพกเล็กกระเด้งถอยแต่ถูกกดเข้าไปจนแนบสนิทอีกครั้ง และต้องขยับไปพร้อม ๆ กัน  ปากบางครางลั่น  จิกเนื้อแข็งจนมือแทบชา

“อือออ .. คิบอม  อะ  อื้อออ”

ใบหน้าคมละจากแผ่นอกบางขึ้นมามอบจูบหวานล้ำ  เรียวลิ้นเล็กกระหวัดตอบรับอย่างเผ็ดร้อนเมื่อพบว่าช่วยลดความเสียวซ่านจากส่วนล่างได้  ยิ่งจูบก็ยิ่งต้องการ  นิ้วมือยาวที่ขยำเนื้อนุ่มก็ยิ่งจับสะโพกเล็กนำจังหวะให้เคลื่อนไหว  จวบจนแผ่นอกบางไม่สามารถเก็บกักลมหายใจได้ หน้าเรียวใสทว่าแก้มแดงก่ำจึงเอียงหนีจูบร้อนหวานล้ำเสียเอง

“อืมมม .. ทงเฮ”

มือร้อนย้ายจากสะโพกนิ่มมาประคองแก้มชื้นด้วยเหงื่อที่ซึมไหลจากไรผม  แก้มใสเบียดเข้ากับฝ่ามือหนาก่อนจะค่อยช้อนตาฉ่ำวาวสบสู้   ตาคมหรี่ลงมองปากบางแดงก่ำด้วยแรงปรารถนา ไล้ผิวแก้มเนียนด้วยปลายนิ้วหัวแม่มือช้า ๆ ก่อนที่เสียงทุ้มจะเอ่ยเรียกคนที่สะท้อนอยู่ในดวงตาของตน

“ทงเฮ... ทงเฮ”

ตาเรียวสวยทนรับแรงปรารถนาที่ส่งมาอย่างไม่ปิดบังไม่ไหวจนต้องหลุบตามองต่ำ  มือเล็กที่ยังจับยังขยุ้มไหล่กว้างก็พาลสั่น  กัดริมฝีปากขบกดความเขินอายไว้ให้ลึก แต่พลันที่เคลื่อนสายตาจากดวงตาสีดำสนิทมาเป็นแผงอกแน่นเนื้อ อีทงเฮก็แทบอยากปิดตาตัวเองแล้วมุดหน้าลงที่ซอกคอชื้นเหงื่อแทน

“ฮื่อออออ คิบอม”

ปากร้อนกรุ่นกลิ่นแอลกอฮอล์จางกดจูบหนัก ๆ ที่ขมับเล็ก  จมูกโด่งคมกดสูดดมกลิ่นเนื้อแก้มจนเกิดเสียงชัด ปากอิ่มลากแตะจูบไปจนทั่วใบหน้านวลกระจ่าง  นิ้วมือยาวที่ประคองตรงสะโพกนิ่งๆ มาหลายนาทีนั้น กลับค่อยสอดปลายนิ้วผ่านขอบกางเกงนอนแล้วถอดผ้านุ่มลงไปกองที่พื้นอย่างง่ายดาย

“ทงเฮ~…





เวลาอย่างนี้ ไม่ต้องเรียกชื่อเขา..จะได้หรือเปล่า?

แค่ต้องยืนให้ตัวใหญ่ ๆ เบียดหลังติดกำแพงทั้งที่ไฟหัวเตียงยังเปิดจ้า ก็แทบจะเขินตายอยู่แล้ว

เสียงทุ้มแตกพร่าของคิมคิบอมที่ไม่ได้ยินมานาน ดังก้องทั่วห้องนอนเงียบ ๆ สะท้อนเข้าในหูจนขนอ่อนที่ท้ายทอยลุกเกรียวด้วยเสียววาบในช่องอก  ยิ่งลากริมฝีปากแต้มแตะไปตรงจุดใด  ก็ยิ่งคล้ายมีกระแสไฟช็อตจนเนื้อกระตุกเกร็ง

                “ฮืออออ.....”

                รู้ตัวว่าครางเครืออย่างน่าอายแต่มันทนไม่ไหว  ยิ่งอีกคนสัมผัสผิวเขามากเท่าไหร่  เรียกชื่อเขามากเท่าใด ก็คล้ายมีบางอย่างกระพือพรึ่บพรั่บอยู่ในช่องท้อง  หัวเริ่มหมุน  แข้งขาอ่อนแรง จนต้องทิ้งน้ำหนักพิงไปที่ผนัง  แต่กระนั้นก็ยังพยายามทรงตัวไม่ให้รูดไหลลงไปกองที่พื้นด้วยขาเพียงหนึ่งข้าง.. แต่มันช่างยากเย็นเหลือเกิน

                มือร้อนๆ ของคิมคิบอมยังบีบคลึงอยู่ที่ก้นและต้นขา  อีทงเฮเชิดหน้าพิงศีรษะเข้ากับผนัง  เสียงครางหลุดผ่านริมฝีปากเป็นระยะตามจังหวะที่อีกคนดูดดึงผิวเนื้อเคลื่อนลงต่ำ  ก่อนที่จะเผลอร้องเสียงสั่นจนต้องรีบเม้มปากไว้แน่นเมื่อความอุ่นร้อนเข้าครอบคลุมที่บางส่วนของร่างกาย

                “อื้ออออออออออออออออ  อะ... ยะ .. อย่าเพิ่ง คิบอม”

                ขยุ้มท้ายทอยอีกคนอย่างแรงโดยไม่รู้ตัวเมื่อความร้อนชื้นเข้าครอบครอง ราวกับประสาทสัมผัสทั่วร่างวิ่งไปรวมกันที่ท้องน้อย  เกลียวเชือกเส้นใหญ่ในกายขมวด ขึง และบิดเกร็ง  กายบอบบางเอี้ยวแผ่นหลัง แอ่นสะโพก จิกเท้ากับพื้นแข็งจนเจ็บร้าวแต่กระนั้นความเสียวซ่านก็ไม่ลดลงแม้สักนิด

                เสียงเนื้อสัมผัสหยาบโลนดังเป็นจังหวะพร้อมกับมือใหญ่ประคองสะโพกเล็กแล้วชักพาให้ขยับ  และยิ่งเพิ่มความหนักหน่วงสะโพกเล็กพยายามรั้งและบิดหนี   ใบหน้าคมกดแนบจนแทบสนิท เสียงครางต่ำจากเบื้องล่างสลับกับมืออีกข้างที่รูดรั้ง ปรนเปรอ

                “ดะ..เดี๋ยว..  ปล่อย คิ คิบอม.. ปล่อย”

                อะไรบางอย่างวิ่งพล่านตามเส้นประสาท  กระแสร้อนแล่นเป็นริ้วจากปลายนิ้ว ปลายผม เลื่อนลงต่ำ แผ่นอก แผ่นท้อง  แผ่นหลัง และไหล่ลาด บิดเกร็ง เริ่มสั่นสะท้าน  แขนทั้งสองข้างดันไหล่กว้างจนกล้ามน้อย ๆ ขึ้นเป็นลูกเล็กบนต้นแขนขาว 

                ลึกล้ำ เรียกร้อง ให้ดำดิ่ง  หมุนคว้าง  จุกแน่น จนไม่อาจมองเห็น หรือรู้สึกถึงสิ่งใด นอกจากบางอย่างที่เรียกร้อง ต้องการให้เร่งขยับกายตามจังหวะที่ถูกชักพา  ความรู้สึกเดิมที่เคยรู้จัก  สัมผัสเดิมที่เคยคุ้น  เส้นทางเดิมที่เคยไปถึง.. อยู่ใกล้แค่เอื้อมมือคว้า

                และปลายอุโมงค์ตรงหน้า  ส่งให้กายน้อยกระตุกระริก ขาวโพลนวาบอาบทั่วร่าง ก่อนจะทิ้งกายรูดกองตามแรงโน้มถ่วง พิงผนังแล้วกระตุกถี่ที่พื้นโดยที่ฝ่ามือร้อนของอีกคนยังประคองนาทีแห่งความสุขให้ยิ่งดื่มด่ำและยืดยาวออกไป







                ผิวขาวนวลเนียนต้องแสงโคมกระจ่างตา  หน้าเนียนใสวาวเหงื่อพราวระยับ  ตาสีน้ำตาลเข้มสวยนักแต่กลับหยีปิดเพราะอารมณ์ที่เพิ่งปะทุและยังไม่สิ้นสุด  ปากบางเม้นแน่นจนเหยียดเป็นเส้นตรงและซีดขาวเมื่อเจ้าตัวกักเสียงครางของตนเก็บไว้ แต่เขายังคงได้ยินมันชัดเจน

                ร่างน้อยอ่อนนุ่มสิ้นเรี่ยวแรงอย่างที่เคยเป็นเสมอยามเดินทางถึงฝั่ง  ทิ้งน้ำหนักนั่งเอนหลังเอียงใบหน้าหนี  ตามจูบแตะช้า ๆ ที่ขมับโชยกลิ่นแชมพูสระผม และแก้มหอมเนื้อผิวกรุ่นกลิ่นจางของดอกไม้เล็กๆ ในครีมอาบน้ำที่เจ้าตัวชอบใช้  แขนเล็ก ๆ ที่เคยคล้องคอเหนี่ยวเขาเอาไว้ทิ้งดิ่งข้างกายอย่างไร้ซึ่งท่าทาง

                “ทงเฮ....”

                เขาเรียก.... เพราะอยากให้ตาเรียวสวย ของเขาเปิดขึ้นมาสบตา  แต่เจ้าของชื่อยังควบคุมระลอกคลื่นปั่นป่วนในอกตัวเองไม่ได้จึงยิ่งเอียงหน้าหนี  กดจมูกและริมฝีปากกับซอกคอขาว สูดดมกลิ่นหอมหวานลึกเข้าในปอดก่อนจะผละออกมามองแก้มใสขึ้นสี  คิมคิบอมใช้ปลายนิ้วเช็ดหยดน้ำใสที่ปลายหางตาเบา ๆ ก่อนจะผละกายของเขาออกมาเพื่อปลดเปลื้องทุกสิ่งที่กั้นขวางผิวของเขากับผิวเนียนของอีทงเฮ

                รวบช้อนกายเล็กที่ยังอ่อนแรงขึ้นมาบนตัก  อีทงเฮยกมือขึ้นมาขวางในจังหวะที่เขากดแผ่นหลังบางเพื่อให้แนบเข้ากับแผ่นอกเขา ในทีแรกไม่ได้ใส่ใจอาการขืนกายเพราะบ่อยครั้งที่อีทงเฮมีปฏิกิริยาโต้ตอบคล้ายขัดขืนแต่แท้จริงเป็นเพียงอาการเขินอายไม่กล้าของเจ้าตัวเท่านั้น   มือหนึ่งข้างจึงยังดึงดันและอีกข้างก็กดสะโพกนุ่มจนหน้าท้องเบียดชิด

                “ดะ เดี๋ยว คิบอม ... ”

                เสียงแหบหวานสั่นจนแทบฟังไม่เป็นถ้อยคำ  คิมคิบอมแนบใบหูเข้ากับริมฝีปากบางเพื่อฟังให้ชัดพลางลากมือสัมผัสรูปร่างและผิวที่แสนรักใคร่  มือเล็กของอีทงฮยังเพียรดันไหล่ ดันแผ่นอก แต่เขาแทบไม่ได้ใส่ใจ  เพราะยามนี้ กลิ่นกาย ผิวเนื้อ  กลิ่นเหงื่อ ของอีทงเฮกำลังทำให้เขาทรมาน 

                แทรกมือลงตรงกลางหน้าท้องแบนราบและแผ่นท้องที่เป็นลูกลอนของเขา  ริมฝีปากบางๆ กดแนบลงมาที่ต้นคอเขาทันทีพร้อมกับ..ขบกัด   เสียงแหบครางหวิวในลำคอแต่เพราะแนบชิดเขาจึงได้ยินชัด  “เดี๋ยว” ที่ปากบางเอ่ยอย่างสั่นระริกชิดผิวคอเขาก็ได้ยิน

                “เดี๋ยวไม่ได้แล้ว.. ทงเฮ~

                “อื้ออออ ฟัง ...ฟังก่อน”

                สะโพกบางเริ่มโยกไหวอีกครั้งเพราะถูกชักพา  มือเล็กๆ ที่ยังดัน กั้นขวางแผ่นอกเขาและแผ่นเนื้อเนียนเปลี่ยนเป็นหยิกขยำ  ยิ่งดันเขาก็ยิ่งเบียดเข้าหาเพราะรู้ดีว่าอีกคนไม่อาจสู้แรงได้และเต็มใจ  ยิ่งถูกขบฟันลงแรงเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรูดรั้งปรนเปรอ

                “อึก.. ฮืออ ...คิบอม  เดี๋ยว เดี๋ยว..”

                “หือ?

                ขานรับทั้งที่กำลังเล็มชิมไปทั่วใบหูและซอกคอหอม  กายบางสั่น เสียงพร่า และพยายามใช้มืออ่อนแรงยื้อยุดจังหวะที่ข้อมือของเขา  อีทงเฮดันกายออกห่างมากพอจนสามารถสบตา และเผยใบหน้าฉาบด้วยแรงปรารถนาและความกระดากอายชัด กระนั้นแล้วตาสีน้ำตาลสวยยังพยามยามจ้องลึกเข้ามาในดวงตาของเขาพร้อมเอ่ยช้าๆ อย่างที่ฟังรู้ว่าต้องควบคุมเสียงของตนเองมากแค่ไหน     

                “คิบอม.. ตรงนี้ไม่ได้”

                “หืม?.. ว่าไงนะ? ตรงนี้ทำไม?

                ได้ฟังชัดแล้วจึงตั้งสติกวาดตามอง  ทั้งเขาและอีทงเฮยังตระกองกอดและนั่งตักกันชิดกำแพงห่างจากประตูห้องไม่ถึงสองเมตรด้วยซ้ำ  ตาคมกวาดมองตั้งแต่ประตูที่ลงล็อก  กองเสื้อผ้าระเกะระกะ  และเตียงนุ่มที่ตั้งเด่นอยู่ไม่ไกล  เสียงแหบหวานกระซิบเบาและชิดจนริมฝีปากสั่นๆ แตะใบหูของเขา

                “ประตูห้องนอนฉัน... มันไม่เก็บเสียง..คิบอม”



ผิวกระเบื้องเย็นเฉียบของห้องน้ำ ทำให้สองกายร้อนรุ่มต้องกอดรัดแน่นกว่าที่เคย  ห้องน้ำเล็กมีเพียงช่องระบายอากาศด้านหลังทำให้เสียงครางกระเส่าก้องทั่ว  เสียงดูดดึง  เสียงกระทบเนื้อ  และเสียงกระเส่า กลบกลืนทุกสติสัมปชัญญะ  แขนยาวกอดรัดกายเล็กแนบชิดและแขนขาวก็เพียรกอดรัดเบียดร่างเข้าหาเช่นกัน

มือเล็กทั้งสองข้างดันกำแพงไว้เพื่อพยุงกายที่โยกไหว  ยามที่เรี่ยวแรงอ่อนแก้มร้อนก็แนบเข้ากับผนัง แรงขยับจากกายหนาที่ซ้อนหลังนอกจากไม่มีทีท่าจะผ่อนเบาแล้วยังเพิ่มจังหวะขยับให้เร็วเข้าเช่นเดียวกับก้อนอารมณ์ที่ตีรื้น

“ทงเฮ....”

มือใหญ่ปัดป่ายไล้ลูบแผ่นอก กดคลึงหยอกเย้าติ่งเนื้อน้อยที่แต่งตึงสู้นิ้ว อุ้งมือร้อนอีกข้างเฝ้าปรนเปรอ ประคับประคอง มอบความสุขไปพร้อม ๆ กับจังหวะเคลื่อนกายที่สอดคล้องสนองตอบ

ปากอิ่มกดจูบ ดูดดึงเนื้ออ่อนเป็นรอยเล็กทั่วลาดไหล่ สะบักหลัง เบาแรงเหลือเพียงสูดดมและแตะชิมผิวคอขาวเท่านั้นเพราะรู้ดีกว่าคงไม่เหมาะหากจะปล่อยรอยรักสู่สายตาผู้ใหญ่  เสียงแหบที่ครางเครือเร่งเร้าให้อารมณ์ของคิมคิบอมโหมกระพือ

“ฮื่อ..”

มือน้อยพยายามยืดมาดันแผ่นท้องแข็งๆ  เพื่อส่งสัญญาณบอกให้ผ่อนแรงและซับแรงเอาไว้ แต่ก็ได้แค่ช่วงเวลาสั้น ๆ เพราะไม่ถนัดจึงเปลี่ยนไปจับนิ้วมือที่กำลังบิดติ่งเนื้อไว้แน่น  เสียงทุ้มกระซิบชิดใบหู แหบพร่า จนต้องเบี่ยงหน้าหลบลมร้อนแต่ปากอิ่มยังตามขบเม้ม

 “อืม...เจ็บเหรอ”

 “อืออออ..” 

ได้แต่ครางในลำคอตอบ.. ได้เพียงเท่านั้น  เพราะในยามนี้คนตัวบางยอมให้คนที่ซ้อนหลังอยู่นำพาทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นร่างกายและสติสัมปชัญญะ..ด้วยความเต็มใจ 

 “อ๊ะ  อื้ออออ”

กายหนาผละออกเพื่อพลิกกายบอบบางให้หันหน้ามาหา  หน้าเรียวสวยของอีทงเฮแดงก่ำด้วยพิษของอารมณ์ปรารถนาและผิวกระเบื้องเย็นเฉียบ  นิ้วมือยาวแตะแต้มผิวแก้มแดงเป็นปื้นก่อนจะกดจูบปลอบประโลม

 “ขอโทษนะ หน้าเป็นรอยเลย”

 “อืออออ”

ตาเรียวๆ วาวเคลือบน้ำฉ่ำ หยดน้ำใสต้องแสงไฟจากเพดานวิบวับที่ปลายหางตา  ริมฝีปากบางเผยอน้อยเชิดหน้าและได้รับจูบหวานล้ำปลอบใจ   ลิ้นอุ่นตามติดเกี่ยวกระหวัดในโพรงปากร้อน  ดูดปลายเล็กที่ระริกตอบรับอย่างโหยหา กวาดต้อนทุกความรู้สึกจากโพรงปากเล็กเข้าหาตัว  ปลายลิ้นน้อยขึ้นสีก่ำตามเล็มแลบปากอิ่มราวกับยังไม่เพียงพอ

หย่อนตัวนั่งที่โถแล้วยกขาเรียวขาวคร่อมทับตัก  รวบเอวบางกระชับเข้าชิด แขนขาวคล้องเกี่ยวเข้ากับไหล่กว้างอย่างรู้งาน  ปากบางแตะแต้มมอบจุมพิตที่จมูกโด่ง แก้มพอง และริมฝีปากอิ่มด้วยรักและใคร่อย่างเผลอตัว 

ปลายนิ้วน้อยแทรกเข้าตามเรือนผมนุ่มสีดำสนิท  เสยเปิดใบหน้าหล่อเหลาให้เด่นชัดก่อนจะแต้มจูบซับหยดเหงื่อพราวที่หน้าผาก  ตาคู่คมหลับตาพริ้มรับสัมผัสนุ่มละมุนจากคนรักก่อนจะเปิดปรือดวงตาเพื่อส่งภาษาผ่านแววตาเช่นกัน

ปากบางกัดปากตัวเองเล็ก ๆ ยามได้สายตาร้อนรุ่มแรงรัก  ปากอิ่มยิ้มละมุนรับความกระดากอายแสนน่ารักก่อนแต้มจูบผะผ่าวเพียงแตะชิมผิวปากนุ่มเท่านั้น  เสียงแหบต่ำสลับแหบหวานหัวเราะคลอเคล้าหยอกเย้า มือร้อนลูบเลื่อนลงต่ำ กระชับสะโพกนุ่มให้แนบชิดเพื่อเริ่มบอกรักผ่านภาษากาย.....อีกครา

ในห้วงของความคิดถึงและเปลี่ยวเหงา  เต็มไปด้วยความเหน็บหนาว โหยหา  ซอกหลืบดำมืดที่เกิดจากระยะทางที่ห่างไกลกระจัดกระจายเพิ่มจำนวนตามคืนวัน  ยิ่งนาน ยิ่งคิดถึง และยิ่งต้องการกันและกัน  ต่างมอบภาษากายเพื่อเติมเต็มช้าๆ  บอกย้ำด้วยผิวเนื้ออุ่นที่สัมผัส  กายที่ก่ายกอด  เสียงกระซิบที่แสนหวาน  และชื่อของคนรักที่เอ่ยออกมาจากใจ

“ทงเฮ... คิดถึง ... คิดถึง”

“อะ อะ... อื้อออ คิบอม~


ยิ่งเอ่ย  ราวกับยิ่งย้ำให้รู้ว่า  คนตรงหน้าที่แนบกายถ่ายเทอุณหภูมิอุ่นสู่กันและกัน  คือความจริง  ใช่ความฝันอย่างที่เคยผ่านในทุกค่ำคืนที่ผ่านมา