วันพุธที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

IBYS 1_20 "นะ ...คิบอม"

I'm by your side~ใกล้ๆ คุณ 
Chapter 20 : "..... นะ ...คิบอม"

ส่วนต้นค่ะ  



ฟังเสียงทุ้มเอ่ยข้อความยาวที่ค่อย ๆ เรียงร้อยผ่านสมองและซึมเข้า   ในใจ  ความจุกแน่นคับในใจเริ่มคลายและอุ่นวาบ

ตาคู่คมเศร้าสร้อยและน้ำเสียงทุ้มเอ่ยอ่อนบอกว่า ใจจะขาด เพราะเขา?? 


ใช่ .. เพราะเขา



 ร้อนกว่าที่เคย และล่วงลึก เอาแต่ใจจนแผ่นอกกระตุกเพราะจมูกไม่สามารถสูดอากาศเข้าไปได้ทัน 
และเหมือนคนตัวโตที่ทาบทับจะรู้จึงผละออกแค่เพียงช่วงสั้นแล้วยัดเยียดความร้อนกลับมาพร้อมการดูดกลืนปากของเขาหนักๆ ซ้ำๆ อย่างเอาแต่ใจ

ช่วยตัวเองไม่ได้นอกจากประท้วงในลำคอ  ปากอิ่มร้อนถอดถอนจากความลึกล้ำแต่วนจูบไปทั่ว

สั่นไปทุกส่วนที่พอจะสั่นได้เพราะตัวโตกดแนบทาบทับไว้    หน้าคมที่ไม่สามารถโฟกัสให้ชัดได้หายไป


อีทงเฮฮุบลมหายใจเฮือกโตเข้าปากก่อนจะเปล่งเสียงอย่างเร็วและรัวพร้อมกับ           มือสองข้างดึงเสื้อกล้ามทางด้านหลังขึ้นสุดแรง

“.......... ทำไม”
ครางตอบรับกับสิ่งที่ได้ยิน   ก่อนจะยกหน้าขึ้นมา เล็กน้อย  แก้มใสที่อยู่ตรงหน้าขึ้นสีจัด  ตาเรียวสวยมองไปข้างเตียง ข้างฝา หรือตรงไหนไม่แน่ใจ ที่แน่ ๆ ไม่ใช่หน้าของคิบอม น้ำใสๆ คลอเครือทำให้คิบอมสับสนว่าควรกดจูบหางตา ขมับ... หรือยอมถอยห่างตามคำขอดี
“ไม่ชอบเหรอ”   กดจูบย้ำที่ไฝเม็ดเล็กบนคอขาวอีกครั้ง ก่อนจะคลายอ้อมแขนออกอีก .. เล็กน้อย
ถอนหายใจยาวกับบ่าเล็กแล้วจึงคลายอ้อมแขนของตัวเองออกมา ล้มตัวลงนอนข้างๆ มือที่หายเข้าไปในเสื้อของทงเฮนั้นตวัดเอาเอวบางเข้ามากอดแนบข้าง ส่วนอีกมือก็จับหัวทุยมาหนุนไหล่ตัวเองไว้แทน  เรียกได้ว่าแค่เปลี่ยนท่ากอดมากกว่า







ตาที่สบตากัน...สั่นไหว  ปากบางนั่นเม้มแน่นก่อนจะเอ่ยบางคำออกมาเบาๆ
... ปัญหาใหม่ตอนนี้คือจะงัดหน้าคนที่มุดลงข้างอกจนแทบจมลงไปในซอกรักแร้ขึ้นมาจูบได้ยังไงกัน



ทำยังไง.. ในช่วงเวลาแบบนี้ต้องพูดอะไรออกไปให้รู้ ว่าอีทงเฮไม่ได้อยากถูกรุ่นน้องรวบกอดไว้   
ถึงจะถูกแขนขาวรวบเข้าใกล้ ถูกมือแตะประปราย  ที่แผ่นหลัง  แต่ทว่าหัวใจในอกมันไม่ได้เต้นถี่ขึ้นมาเลย

เผยอปากเตรียมจะอธิบาย แต่ทว่าความอุ่นร้อนที่เมื่อครู่วนเวียนไปทั่วใบหน้ากลับกดหนักลงมา
ที่ริมฝีปากของเขา    .... มันแนบแน่นและหนักกว่าทุกครั้งจนสะอึกครางในลำคอทันที

รุกเร้า  กดหนัก  แนบชิดจนแทบไม่มีช่องว่าง  ซ้ำหน้าคมที่เอียงขยับ  ทำให้คางของเขาแหงนขึ้นตามแรงชี้นำจนแทบไม่มีสิ่งใดลอดผ่านระหว่างริมฝีปาก

ร้อน  ... ริมฝีปากและลิ้นของคิบอมร้อน 



“ฮื้อ...”  

แนวคาง จมูก วนไปสูดกลิ่นเฮือกใหญ่ที่แก้มก่อนจะวนมาดูดริมฝีปากล่างของเขาแรง ๆ   แล้วใช้ปลายลิ้นไล้ไปมาซ้ำ ๆ


อีทงเฮเผยอปากหอบลมหายใจที่นาทีนี้มีค่ามากนักลงคออึกใหญ่  ก่อนจะสะดุ้งสั่นไหวเพราะความร้อนที่แนบหนักไซ้ลงไปที่ลำคอ

“อื้ออออออ” 

สั่น... อีทงเฮกำลังสั่น  

ใต้ระดับที่เขาสามารถมอง เห็น ลมหายใจร้อนแนบรดไปจนทั่วคอพร้อมกดจูบหนัก ๆ  จากด้านข้าง 
ลากลงไปตามฐานคอแล้วลากยาวผ่านกระเดือกจนถึงปลายคาง จนทำให้หน้าของเขาแหงนเงย

ปากที่เป็นอิสระกำลังจะเอ่ยคำประท้วงแต่ทว่ากลายเป็นเสียงร้องแหบสั่นเพราะมือที่ลูบไต่เข้ามาที่เอว กดหนักบ้างสลับลากด้วยปลายนิ้วตามแผ่นหลัง ทำท่าจะสูงขึ้นเรื่อย

“อ๊ะ อื้ออออ คิบอม….

ไม่รู้เลยว่าแขนที่ถูกทับไว้โดนดึงออกตอนไหน  และไปคล้องอยู่ที่ลำคอของคนที่ยังซุกไซ้หาอะไรบางอย่างตั้งแต่เมื่อไหร่

ไม่รู้เลยว่าแผ่นอกแนบชิดสนิทกันขนาดนี้ได้อย่างไร 

หัวใจที่เต้นกระเด็นกระดอนผิดจังหวะไป  จะกระแทกคนที่เอาแผ่นอกมาแนบให้เจ็บบ้างหรือเปล่า

ยิ่งคิบอมกดจูบมาอีกครั้งอย่างเร่าร้อน    ปลายนิ้วสั่นก็ยิ่งต้องหาที่จิกแน่นเพื่อระบาย

ความร้อนลากไปจนถึงใบหู  ขบหยอก และผวาวาบเมื่อลิ้นชื้นแลบเลียลงไป มือที่จับคว้าอะไรได้ก็ต้องขยำขยุ้มสุดแรง

และในนาทีที่ความร้อนชื้นซอกไซร้ทั่วใบหูพร้อมๆ   กับความอุ่นของฝ่ามือที่กำลังไต่ขึ้นสูงตามชายซี่โครง  เขารู้สึกเหมือนเส้นด้ายกำลังจะขาดผึง


“คิบอม คิบอม  .. คิบอมมมมม”


เสียงหอบหายใจถี่ พร้อมกับหน้าคมหยุดการเคลื่อนไหว คล้ายทุกสิ่ง นิ่งไปชั่วขณะ   คิมคิบอมหยุดการซุกไซ้เหลือเพียงฝังจมูกและปากลงไปที่บริเวณหลังหูและต้นคอขาว 

ลมหายใจร้อนที่เป่ารดนั้นเร็ว รัว  ขยับตัวเพียงนิดก็รู้สึกถึงริมฝีปากอิ่มที่ชิดอยู่กับลำคอ  และแม้ว่าคนข้างบนจะค่อย ๆ   ผ่อนจังหวะลมหายใจลงมาบ้าง แต่คนข้างล่างที่ยังอยู่ในอ้อมกอดเต็ม ๆ  ตัวนั้น หัวใจยังเต้นกระหน่ำไม่หยุด  มือเล็กที่เคยขยุ้มอยู่ที่เรือนผมดำสนิทนั้นลดลงมาดันที่บ่ากว้าง


“..... ถอยก่อน” 

“.... หยุดแล้ว  แค่กอด..... ไม่ได้เหรอ”     เสียงทุ้มพูดพร่าอยู่ข้างหลังใบหู บ่งบอกถึงความพยายามควบคุมของเจ้าตัว

“............... ถอยไปอีกนิดนะ  มันไม่ไหว”  เสียงแหบบ่นงึมงัมเบาหวิว

“... ..... “  ไม่ตอบรับและไม่ยอมคลายอ้อมกอด  มือเล็กจึงเริ่มดันแรงขึ้นพร้อมกับเอียงใบหน้าลงแนบกับหมอน หวังให้สัมผัสของลมหายใจและริมฝีปากร้อนลดลง

“.... นะ คิบอม” 

“แค่กอดเองนะ”  ปากอิ่มตามมากดจูบที่ต้นคอขาวซ้ำแล้วค้างไว้ตรงนั้น    ทำเอาหัวใจที่เต้นกระหน่ำจะกระเด็นกระดอน ขนอ่อนลุกเกรียวซ้ำไม่รู้เป็น ครั้งที่เท่าไหร่  และเมื่อรู้สึกว่าจะทนไม่ไหวอีกครั้งจึงดันบ่ากว้างเต็มแรง

“กอดก็ได้ แต่เอาหน้าออกจากคอฉันก่อนได้มั้ย”  เสียงแหบสั่นเอ่ยออกมาพร้อมมือเล็กอีกข้างที่ตบบ่ากว้างรัว ๆ เป็นการเร่ง

“อืมมม ...... “  



“ไม่ใช่...พอก่อนเถอะ.. นะ..คิบอม”  ทิ้งหางเสียงอ้อนอ่อน แต่ไม่ยอมหันมาสบตา   คิบอมจึงกดจูบซ้ำที่เดิมอีกครั้งเพราะในตอนนี้ผิวข้างไฝเม็ดนั้นขึ้นเป็นสีชมพูระเรื่อน่ามอง

“อื้อออออ~~~”    ครางเสียงสั่นพร้อมมือทั้งสองข้างออกแรงดันบ่ากว้างอีกครั้ง  ครั้งนี้สั่นจนคิบอมรู้สึกได้

“เฮ้อ .... โอเค”  


แก้มใสที่แนบอยู่ตรงหน้าอกคิบอมนั้น  หากไม่มีเสื้อกั้นคงสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิร้อนผ่าว  แขนสองข้างที่ดึงกลับมาหนีบไว้ตรงอกตัวเองนั้นค่อย ๆ คลายออก ก่อนที่มือเล็กจะค่อย ๆ วางลงบนแผ่นท้องของคนที่ตัวเองซบอยู่ ... ต่างคนต่างทิ้งเวลาเนิ่นนานหลายนาที  มีเพียงบรรยากาศที่ลอยอ้อยอิ่งเวียนวนให้ เก็บเกี่ยว 

ทงเฮนอนมองฝาผนังปลายเตียงอยู่นาน จนมั่นใจว่าควบคุมลมหายใจตัวเองได้แล้ว   จึงค่อย ๆ เงยขึ้นมองหน้าคมของคนที่ให้ซุกซบ ทันที่ได้สบ   แววตาขึงขุ่นตัดพ้อในตาคมหายไปไหนแล้วไม่รู้  เหลือเพียงแววอบอุ่นส่งให้เหมือนที่เคยเห็นอยู่เสมอจึงได้รู้สึกเก้อเขิน  ทงเฮจึงเก็บกลืนลมหายใจเอ่ยปากบอกออกไป  แล้วก็แทบจะมุดลงซอกรักแร้ของอีกคนเป็นการปิดบทสนทนา

เกือบไปแล้ว  

คงเป็นเอามากจริงๆ สินะ  ....

ยามนี้คิมคิบอมได้แต่นอนนิ่งหลับตา แต่ทว่ายังไม่ยอมปล่อยคนข้างๆ ให้เป็นอิสระ  ยังคงพอใจที่จะกอดเกี่ยวเอวบาง ๆ นั่นไว้ชิดตัว และวางมือลงทับ ฝ่ามือเล็กที่แนบอยู่ที่แผ่นท้องแล้วลูบไปมาเบา ๆ 

ริมฝีปากบางนั่น นิ่ม และหวาน  จนหยุดดูดกลืนกินไม่ได้

กลิ่นหอมเย็นๆ ที่เคยโชยมาอ่อน ๆ  มันฝังอยู่ที่ผิวจนต้องสูดดมค้นหาต้นตอ  
ผิวที่ไม่ได้นุ่ม หยุ่น เหมือนผู้หญิง แต่กลับตึง เรียบ สะท้อนกลับฝ่ามือและปลายนิ้ว 
จนอดลูบลงน้ำหนักซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่ไหว

แนวโค้งจากสะโพกขึ้นมาที่เอวบาง  ไล่ขึ้นมาตามกระดูกสันหลังโค้งรับฝ่ามือร้อน
จนต้องไล่มือตามว่าจะสิ้นสุดลงที่ตรงไหน  ไฝเม็ดเล็กที่เป็นเหมือนจุดโฟกัสเดียวกลางลำคอขาว 
 เขารู้สึกว่ามันน่ารัก น่ามอง น่ากดจูบแล้ว ดูดให้แดงเรื่อ

ทั้งหมดทั้งมวล มันคือความยากลำบากที่ทำให้เขาต้องหลับตานิ่งปิดประสาทการรับรู้ทางภาพไปเสียในตอนนี้  

ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้ว่าสุดท้ายจะไปจบที่จุดไหน   
 ไม่ได้กลัวความผิดชอบชั่วดีอะไรทั้งสิ้น ถ้าคิดจะทำต่อ  
สิ่งเดียวที่ทำให้หยุดและพอใจที่จะแนบชิดอยู่เพียงเท่านี้
คือมือที่ดันบ่าและเสียงแหบพร่าเบาหวิวที่เอ่ยขอให้ถอย

เพราะมันไม่ใช่เพียงเซ็กส์.... สำหรับคิมคิบอม
มันคือความเสน่หา ที่ต้องการแสดงออกมาให้อีกคนได้รับรู้
มันคือความหึงหวง แต่หอมหวาน และต้องการเป็นเจ้าของ
และมันจะมีค่ามากยิ่งนัก  ถ้าอีกคนเต็มใจ และพอใจจะให้

คิมคิบอมไม่ใช่เด็กหนุ่มน้อยริหัดลองบทเรียนรัก  ที่ผ่านมาก็มีคนเต็มใจ และพอใจเสนอให้  
ซึ่งแม้จะไม่ได้ปฏิเสธทุกราย แต่คิมคิบอมก็รู้ในอกดีว่า “ต่าง” กับความหอมหวานที่สัมผัสได้เมื่อครู่

เพราะการกระทำที่ทำให้เกิดความ “อยาก”  โดยไม่มีความรู้สึก 
มันช่างต่างกันโดยสิ้นเชิงกับการที่ความรู้สึกข้างในผลักดันจนเกิดเป็นความ “อยาก”
 เร้าเร่งส่งผลให้เกิดการกระทำ

และมันคงมีความสุขมากถ้าอีกคนเต็มใจ   กลับกันมันอาจไม่เหลือความสุขอยู่เลยก็ได้ถ้าอีกคนไม่ต้องการ

สัมผัสดันที่ไหล่  คำเบา ๆ ที่ขอให้หยุดก่อน  
และตาสวยเอ่อน้ำใสที่ผินหน้าหนี .... จะคิดว่าคือการ “ปฏิเสธ”  ได้หรือไม่

และถ้าใช่  ถ้าไม่เต็มใจ   .... คิบอมจะทำอย่างไร
แต่ถ้าจะให้ปล่อยอ้อมกอดตอนนี้ .. เขาทำไม่ได้    
อาการของอีกคน   ที่ยังซุกหน้าลงกับอก และวางมือให้ลูบโดยไม่ผลักไส  
ก็คงหมายถึงคนคนนี้ไม่ได้รังเกียจกัน

คนบนอกเริ่มขยับตัวไปมาเบา ๆ  มือที่กอบกุมไว้ไม่สั่นไหวแล้ว  ได้ยินเสียงสูดลมหายใจหนัก ๆ   
จึงได้ลืมตามอง   วงหน้าเรียวแก้มใส   ทำให้คิบอมรู้สึกพองในใจ  


“.... คือ .... ท้องมันปั่นป่วนไปหมด  หายใจจะไม่ทัน”..... ไม่มีแววรังเกียจอยู่ในตาสวยคู่นั้น 

 “........... ไว้... ค่อยว่ากันใหม่นะ” .................

เหมือนเสียงอะไรพังครืนอยู่ในหัวสมอง
พร้อม ๆ กับอะไรสักอย่างที่ดัน โป่งพอง แล้วลอยวูบขึ้นไปในอากาศ
หยุดไม่ได้แล้วเวลานี้

ที่คิดมานานสองนานเมื่อกี้เป็นอันพับไป 



จบตอน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น