I'm by your side~ ใกล้ ๆคุณ 2
Chapter 4 : มองฉันสิ...ทงเฮ
ส่วนต้นค่ะ
ม่านถูกรูดออกจนสุดเปิดให้เห็นโลกภายนอกผ่านหน้าต่างกระจกบานใหญ่ วิวจากห้องต่างระดับของบ้านหลังกะทัดรัดไม่กว้างไกลแต่พอเห็นสนามเล็กด้านหลังและไฟตามท้องถนนและบ้านเรือน
“ทำอะไรอยู่หืม?”
สัมผัสสอดเข้าใต้แขนแล้วโอบรัดรอบเอว ลำตัวเย็นๆ
อย่างคนเพิ่งอาบน้ำแนบเข้ามาที่ด้านหลัง
ความชื้นส่งผ่านเสื้อนอนตัวบางแต่ก็ทำให้รู้สึกดี
เพียงไม่นานไอความเย็นค่อยผสานกับอุณหภูมิจนเป็นไออุ่นที่รู้สึกได้
“ดูไปเรื่อยเปื่อย”
อีทงเฮเอนตัวพิงทั้งที่ตายังมองไปนอกหน้าต่างที่ไม่ค่อยเปิดม่านนัก เพราะการอยู่คนเดียวทำให้รู้สึกระมัดระวังเกินกว่าจะปล่อยช่องว่างให้คนภายนอกมองทะลุได้
“เมาหรือเปล่า”
เสียงทุ้มพูดชิดใบหู ปากบางยิ้มเบา
คิบอมคงจะห่วงสองแก้วสุดท้ายที่เขาใช้วิธียกรวดกับอีฮยอกแจเพื่อให้เพื่อนยอมปล่อยเยซองออกจากการกอดรัดแล้วแยกย้ายกลับบ้านเสียที
“ไม่หรอก
คิบอมล่ะ”
“ไม่เมา
แต่สงสัย”
“หือ? สงสัยอะไร”
“สงสัยบางอย่าง
... แต่คิดว่าทงเฮคงไม่ตอบ”
เบี่ยงหน้าไปมองจมูกโด่งคมและปากอิ่มได้รูป
อีทงเฮขำคิกในลำคอเพราะคิมคิบอมทำเสียงคล้ายน้อยใจตัดพ้อราวกับเด็กๆ
“รู้ดีจังนะ”
“เฮ้อ...
ก็ทงเฮไม่ค่อยตอบอะไรสักเท่าไหร่”
“บางเรื่องไม่ต้องตอบก็ได้นี่นา
ดูเองก็เห็น”
“เห็นแล้ว...
ว่าทงเฮแปลกๆ”
“ที่ไหน..
ไม่มีหรอก” เสียงใสเอ่ยแผ่วกว่าเดิม รู้สึกถึงอ้อมแขนที่กระชับเอวมากขึ้น
“ตั้งแต่ที่ร้าน
ฉันอยู่ข้างนายตลอด รู้....ว่านายแปลกไป อย่าปฏิเสธเลย”
“..อะ ..
อืมมม”
หมดปัญญาจะปฏิเสธในเมื่อรู้ดีว่าเจ้าของกอดอุ่นช่างสังเกตกว่าเขามากแค่ไหน
“คิดอะไรอยู่ บอกฉันได้มั้ย”
เสียงทุ้มเอ่ยชิดใบหูจนปากอุ่นละเลียดโดน ก่อนจะกดจูบเบา ๆ ให้ใจหวิวเล่น ๆ
“มะ .. ไม่มีอะไรหรอก
ช่างมันเถอะนะ เดี๋ยวฉันก็หาย”
“แน่เหรอ?”
“แน่สิ”
หันไปสบตาคู่คมที่รออยู่
แต่ดูเหมือนอีกคนจะยังเต็มไปด้วยความไม่แน่ใจ ทงเฮจึงค่อย ๆ หมุนกายกลับมา วางหน้าผากพิงไหล่ซุกหน้าลงไปพร้อมโอบเอวสอบไว้หลวม
ๆ
“ไม่ได้เป็นอะไรมาก
เดี๋ยวก็หาย... จริงๆ”
“งั้น..
ฉันขอบอกอะไรหน่อย”
“หืมม? อะไรเหรอ”
“ฉันอยู่ตรงนี้นะ”
“...อะไรอ่ะ ก็รู้... คิบอมก็อยู่ตรงนี้ไง”
แขนเล็กที่กอดเอวสอบไว้เขย่าเบา ๆ
“งั้นแล้วทำไมนายถึงใจลอยไปที่อื่นตลอดเวลาเลยล่ะ”
“................?”
“นายอาจจะไม่รู้ตัว แต่ฉัน...รู้สึก”
“................”
“ทั้งที่อยู่ข้าง
ๆ นายอย่างนี้”
“................”
“แต่เหมือนใจนายลอยไปที่อื่น
เหมือนตาของนายจะมองผ่านฉัน”
“มะ..ไม่นะ
ไม่จริงหรอก”
สัมผัสอุ่นจุมพิตลงที่แก้ม ริมฝีปากชื้นเล็มไล้แนวกรามจนถึงคาง กดเพียงแผ่วบางที่ริมฝีปากบนแล้วผละออกจนทงเฮมองตามตาปรอย
“ฉันอยู่ข้าง ๆ
นาย ฉันไม่ได้มองตามใคร ไม่ได้คิดถึงใคร
คิดถึงแค่นาย.... เพราะฉะนั้นอย่ามองคนอื่น อย่าคิดถึงคนอื่นมากกว่าฉัน..
อย่าสนใจคนอื่นมากกว่าตัวเอง .....มองฉัน ฟังฉัน....ทงเฮ””
แม้จะเอ่ยประโยคเอาแต่ใจ
แต่น้ำเสียงแฝงมาด้วยความน้อยใจ
สะกดให้คล้อยตามง่าย ๆ ไร้เรี่ยวแรงขัดขืน เสียงทุ้มนั่นทำให้อีทงเฮรู้สึกว่ากำลังถูกตัดพ้อ
กลิ่นแอลกอฮอล์จางส่งผ่านไออุ่นของลมหายใจ
คละเคล้าส่งต่อกันในโพรงปาก ลิ้นชื้นซุกซนเกี่ยวกระหวัดจนสั่นสะท้าน แก้มนิ่ม ผิวคอหอมถูกสูดกลิ่นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ความเบียดชิดจากคนเดิมทำให้ใจเต้นตุบตับแทบหลุดออกนอกอก ก่อนที่คิมคิบอมจะดันออกแล้วเริ่มบางอย่างที่อีทงเฮ...ไม่เคยรู้จัก
ครางแผ่วเพราะความวาบหวิวที่ไม่เคยคุ้น คิมคิบอมที่ร้อนรุ่มวันนี้กลับเนิบนาบ ลมอุ่นพรมไปทั่วแผ่นอก
แผ่นท้องเปลือยเปล่า ปากอิ่มลากเอื่อยเพียงแผ่วผิว บางเบา.......ให้รู้สึกไม่แน่ใจในสัมผัสจนต้องแอ่นอกเข้าหา
นิ้วเรียวยาวที่เคยเค้นหนักจนเนื้อตัวเจ็บ
กลับลากเบาจากข้อเท้า ปลีน่อง ต้นขา และผิวเอวจนต้องบิดกาย ปลายนิ้วปัดป่ายตามแนวสีข้าง ก่อนหยุดไล้วนที่ยอดอก
ทำได้ยังไงกัน...
เหมือนเป็นเพียงสายลมอุ่นลากผ่านทุกส่วนสัด ราวกับเป็นเพียงภาพลวงในจินตนาการ มีเพียงเรียวลิ้นที่สะกิด และปากอิ่มที่เชยชมจุกเล็กเท่านั้น
ที่ทำให้ทงเฮเชื่อว่ากำลังถูกกกกอดอยู่จริง
“ฮื้อออ~”
ศอกเล็กค้ำก่อนดันยกตัวขึ้นสูง ครางในลำคอฮึดฮัด คิ้วเรียวขมวดนิ่วอย่างคนไม่ได้ดั่งใจ แต่ไม่รู้ว่าอะไรที่ตนต้องการ
ใบหน้าคมผละจากผิวเนื้อบางขึ้นมาสบตา คิมคิบอมยามนี้เนิบนาบ ฝ่ามือคืบคลานช้า ทั้งที่นัยน์ตาเต็มเปี่ยมด้วยแรงปรารถนาฉายชัด
“อืออ ..
คิบอม”
วูบโหวง ราวกับมีหลุมกว้างใหญ่ไร้ขอบเขตแดนอยู่ในอก
ร่างกายสะท้านเพราะลมหายใจที่พรมทั่ว แต่กลับเหมือนไม่ถูกสัมผัส
รู้ตัวว่ากำลังถูกตาคู่นั้นจดจ้องที่ริมฝีปาก เผยอปล่อยลิ้นเล็กสีชมพูแลบเลียปากล่างช้า ๆ หวังว่าใบหน้าคมจะโน้มลงมาเติมสิ่งที่เขากำลังร้องขอ
แต่คิมคิบอมเพียงแค่ลากผิวปากสัมผัสกัน กดจูบเกิดเสียง จุ๊บ ที่ริมฝีปากบนเบา
ๆ เท่านั้น ไม่แนบชิด ดุดันจนแทบขาดห้วงลมหายใจอย่างที่เคย
“ฮื้อออออ..”
สะบัดช่วงแขนที่เป็นอิสระแรงๆ
ลงบนที่นอนนุ่ม บิดกายไปมาทั้งไหล่ เอว
ช่วงขา
แต่ยังรู้สึกว่ามันไม่ใช่ ได้ยินเสียงทุ้มครางขำในลำคอให้รู้สึกขัดใจจนยกมือขึ้นทุบหัวไหล่แน่นแรง
ๆ
“อือออ ...คิบอมมมม”
“ทำไม”
“ฮื้อออ”
จิกนิ้วขยำที่ต้นแขนเนื้อเนียนแน่น
นัยน์ตาอบอุ่นส่งแววล้อเลียนกับกิริยาที่เขาแสดงออกซึ่งแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจ แขนยาวสอดใต้เอวแล้วกอดเกี่ยวไว้ ไม่ทาบทับลงมาเหมือนที่เคยทำ
“คิบอม.. อื้อออ”
หมั่นไส้แววตากับยิ้มมุมปากจนทนไม่ไหว ความเขินอายถูกพับเก็บไว้เมื่อร่างกายถวิลหาบางสิ่งจนควบคุมไม่อยู่
ยกศีรษะขึ้นสูงแล้วระบายความอึดอัดที่ไม่สามารถเอ่ยเป็นถ้อยคำได้กับกล้ามเนื้อของคนข้างบนทันที
“โอ๊ะ.. โอ๊ยย .. พอแล้ว...ทงเฮ.. ทงเฮ”
ปล่อยเขี้ยวออกจากผิวเนื้อร้อนที่เต้นตุบสะท้อนผิวฟัน ตวัดตาขุ่นมองคนช่างกวนใจ จ้อง...จนปากอิ่มนุ่มเคลื่อนมาใกล้ ...กระซิบแผ่วชิดริมฝีปากของเขา
“รู้หรือยัง...”
“รู้อะไร”
“รู้หรือยัง ว่าฉันอยู่ตรงนี้”
“อะไร.. นายหมายถึงอะไร”
นิ้วมือยาวจับมือเขาคล้องไปที่ลำคอของตนเองก่อนจะก้มลงกดจมูกและปากซุกลงที่ซอกคอ
ปลายอุ่นชื้นแตะหยอกตำแหน่งตรงที่ทงเฮจำได้ว่ามีไฝเม็ดเล็กอยู่ หวิวรสลิ้นจนเสียงแหบครางฮือ
“กอดฉันแน่นๆ สิ ...จะได้จำได้ ว่าฉันอยู่ข้างนาย อยู่บนตัวนาย แนบชิดกับนาย....เรา..กำลังแนบชิดกัน”
เสียงทุ้มแหบพร่า ฝ่ามืออุ่นร้อนเริ่มลากผ่าน กดลงน้ำหนักตามผิวเนื้อช้า
ๆ ขอบตาของทงเฮร้อนผ่าว
จมูกโด่งแสบด้วยความรู้สึกที่ตีรื้นจากในอก
...เขาต้องการความอบอุ่นของคนตรงหน้า
ต้องการได้รับสัมผัสเพื่อให้ตัวเองมั่นใจ
และเพราะต้องการจนแทบทนไม่ไหว
มือไม้แม้จะสั่นแต่ยังกระชับอ้อมแขนเข้ากับช่วงไหล่หนา
“... ฮือออ .. นะ... คิบอม”
ราวกับโดนมนต์สะกดให้คล้อยตาม ดื่มด่ำอยู่ในห้วงอารมณ์ลึกล้ำจนสะท้านถี่ กล้ามเนื้อทั่วทั้งกายขมวด บิด เกร็ง
ด้วยความเสียวซ่าน เร้าให้อยากหลีกหนีพอๆ
กับเบียดผิวเข้าหา
ถูกกดตรึงกับเนื้อที่นอนนุ่ม
ถูกกดจมลงใต้ผิวน้ำเย็นเยียบแต่ขณะเดียวกันก็กลับรุ่มร้อน
ท่อนขาแข็งแรงกดขาขาวให้แยก แทรกกายตาม น้ำหนักที่เคยคุ้นทาบทับ เบียดชิด และเสียดสี
กลิ่นครีมอาบน้ำโชยกรุ่น ผสานกลิ่นเนื้อผิว ระเหยลอยอบอวลจุดอารมณ์พิศวาสให้ลุกโชน
อะไรบางอย่างในกายบิดมวนเป็นก้อนกระจุก เพิ่มขยายอัดแน่นในอก ลามแผ่ทั่วร่างราวกับกำลังหาช่องทางระบายออกจนต้องหยีตา กัดฟัน
อะไรบางอย่างในกายบิดมวนเป็นก้อนกระจุก เพิ่มขยายอัดแน่นในอก ลามแผ่ทั่วร่างราวกับกำลังหาช่องทางระบายออกจนต้องหยีตา กัดฟัน
หน้าเรียว แก้มใสที่เงยหงาย ถูกประคองไว้ในอุ้งมือและกระซิบแผ่วเบาชิดใบหู
“ลืมตามองฉันสิ.. ทงเฮ”
ปรือตามองอารมณ์ปรารถนาในตาคู่นั้น
เห็นภาพตัวเองตัวบิด อารมณ์พุ่งพล่าน เขินอายจนต้องเบี่ยงแก้มออกจากมือลงแนบหมอนหลบสายตา
จูบแนบชิด ตวัดลึก เกี่ยวรัดปลายลิ้นเล็ก ขบดูดปากบางจนแทบชา ละห่างเพียงน้อยให้ปอดเล็กกอบโกยจนหอบโยน
“อือออออ ....”
เสียวซ่านทว่ากัดฟันแน่น มือไม้สั่นจนรู้สึกได้ แม้ไม่ใช่ครั้งแรกแต่ยังไม่อาจละทิ้งความเขินอายในท่วงท่า แม้จะเคยรู้จักร่างกายของอีกฝ่ายแต่ยังรู้สึกเจ็บ
คับ จนกระเด้งตัวขึ้นกอดเกี่ยวบ่าแข็งแรงไว้แน่น
“อ๊ะ.. อื้ออออ คิบอม”
“ใจเย็นๆ ทงเฮ ... อย่าเกร็ง”
“ฮื้ออออ...”
มืออุ่นร้อนลวกผิวเคลื่อนตามแนวแผ่นหลังโค้ง บั้นเอว นวดคลึงให้ผ่อนคลาย ก่อนกอบกุมบางส่วนของทงเฮไว้
แล้วเริ่มขยับรูดรั้งตามจังหวะเคลื่อนกายแทรกด้วยเสียงทุ้มหอบหายใจถี่
จุกบนอกถูกดูดดึงขึ้นแล้วปล่อยหลุดจากปากร้อนซ้ำๆ ...คล้ายจะเจ็บหนึบแต่สร้างกระแสซ่านวิ่งปราดทั่วท้องน้อย
นิ้วแข็งแรงกดทั่วอก และสะโพกนิ่ม
เค้น คลึง ... เกือบจะเจ็บ เกือบจะร้อง แต่ลำคอขาวกลับเปล่งเสียงครางหวาน
ยามอารมณ์พุ่งสูงลิ่ว หลายต่อหลายครั้งต้องการปลดปล่อยบางอย่างให้พ้นจากกาย แต่คนข้างบนก็กลับเปลี่ยนจังหวะเป็นเชื่องช้าคั่นไว้
ไม่ยอมปล่อยให้ถึงจุดหมาย แล้วขยับเร็ว รูดรั้ง ปลุกทุกประสาทสัมผัสอีกครั้งจนแทบขาดใจในห้วงสั้นๆ
แค่เพียงไม่กี่นาที
อีทงเฮถูกตอกย้ำด้วยจังหวะกระชั้น
ย้ำ.. ให้รู้สึกถึงผิวเนื้ออุ่นที่เสียดสี
ย้ำ....แทรกลึก หอบถี่ จนเม็ดเหงื่อหยดพราวลงแผ่นผิว
นิ้วเล็กเกร็งบิดต้นแขนแน่นเนื้อและผ้าปูจนนิ้วขาว ปลายเท้าเกร็งจิกปวดหนึบ เอวบางแอ่นสูง แหงนเงยสุดลำคอ
ก่อนที่เกลียวคลื่นสูงใหญ่ระลอกสุดท้ายจะโหมซัดอัดในอกจนสมองขาวโพลนและหลุดปลิว
ทิ้งไว้เพียงยอดอกสีก่ำ หน้าร้อน ตัวชา ราวโดนไฟฟ้ากระแสอ่อนช็อตลามเลียไปทั้งกาย
“อ๊ะ.. อ๊า....อื้อออออ......ฮือ. อ.... ”
คนด้านบนโหมย้ำลึกในจังหวะท้าย
ราวกับต้องการให้ลึกถึงจิตใจ ซึ้งถึงการมีตัวตน สัมผัส จับต้องได้
และ....ตั้งแต่เริ่มจนถึงจุดสิ้นสุดของกิจกรรม คิมคิบอมเพียรเรียกชื่อของเขา
ก่อนครางกระเส่าในห้วงสุดท้าย
เสียงกระซิบที่ใบหู ทว่าสะท้อนก้องในใจ
‘รักนะ ...ทงเฮ........’
TBC
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น